กอร.พระราชพิธีฯแถลงอำนวยความสะดวกปชช.ถวายพวงมาลัย-ดอกไม้สดสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงร.9 หน้าประตูวิเศษไชยศรีตลอด 24 ชั่วโมง เปิด 2 จุดคัดกรองท่าช้าง-ถนนข้างศาลหลักเมืองให้ปชช.เข้า กทม.จัด 22 จุดแจกอาหาร
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ในฐานะรองโฆษกกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธีฯ) แถลงถึงความคืบหน้าการเปิดให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้ามาวางพวงมาลัยและดอกไม้สด สักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณประตูวิเศษไชยศรีว่า ได้เปิดให้ประชาชนเข้าวางดอกไม้ เพื่อสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง ช่วงประตูวิเศษไชยศรีได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันที่มีการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศจะหยุดพัก และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะหลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กทม. และจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะปิดให้ประชาชนเข้าวางดอกไม้และพวงมาลัยเมื่อใด
ทั้งนี้ประชาชนสามารถเดินเข้ามาได้ 2 ช่องทางใน 2 จุดคัดกรองเท่านั้น คือบริเวณท่าช้างและบริเวณสะพานหลังศาลหลักเมือง ซึ่งต้องผ่านถนนอัษฎางค์ ข้างกระทรวงกลาโหม ขอความร่วมมือประชาชนที่มาวางดอกไม้ไม่เดินเข้าไปภายในพื้นที่สนามหลวง เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธี
นอกจากนี้ ได้ประสานกทม.เรื่องการบริการด้านอาหารใน 22 จุด คาดว่าจะใช้พื้นที่วัดโดยรอบ แบ่งเป็นวันที่ 25 ต.ค. มื้อเย็น วันที่ 26 ต.ค. บริการทั้ง 3 มื้อ และวันที่ 27 บริการ 2 มื้อ คือ เช้าและกลางวัน อย่างไรก็ตาม ห้ามประชาชนนำอาหารมาแจกจ่ายตามรายทางเดิน ขอให้ไปรับประทานอาหารยังจุดที่กทม.จัดไว้ให้เท่านั้น ขณะนี้ทุกอย่างมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งระบบการรักษาความปลอดภัย การรองรับสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง และการจราจร ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมสภาพร่างกายและพกยาติดตัวมาหากมีโรคประจำตัว โดยกอร.พระราชพิธีฯ มีหน่วยแพทย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลประจำจุดบริเวณประตูวิเศษไชยศรี ส่วนหน่วยแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆดูแลอยู่ทุกจุดรอบพื้นที่
