โลกใหม่สวยงาม.. อะลาดินกลับมาอีกครั้งในรอบ 27 ปี ความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กหวนคืน

ปี ค.ศ. 1992 “อะลาดิน” ก่อกำเนิดขึ้นในเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น กวาดเงินไป 504 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไม่ธรรมดาเลย เรียกว่าสร้างความสำเร็จและความนิยมต่อเนื่องยาวนานถึงปัจจุบันกับเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากนิทานอาหรับราตรี หรือพันหนึ่งราตรี…การขอพรของเด็กหนุ่มจากยักษ์วิเศษในตะเกียง และเจ้าหญิงที่ต้องการชีวิตอิสระ กลายเป็นอีกหนึ่งแอนิเมชั่นอมตะของดิสนีย์

27 ปีผ่านไป “อะลาดิน” กลับมาพบผู้ชมอีกครั้งในปี 2019 ในรูปแบบผู้แสดงจริง จากฝีมือกำกับของผู้กำกับฯ คนดัง “กาย ริชชี่” เรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้ยากจนนามว่า “อะลาดิน” เขาถูก “พ่อมดจาฟาร์” หลอกล่อให้เข้าไปเอาตะเกียงในถ้ำสิงห์กลางทะเลทราย ที่นั่น “อะลาดิน” ถูตะเกียงปลดปล่อยวิญญาณของ “ยักษ์จีนี่” ที่มาพร้อมพร 3 ประการ

“อะลาดิน” ขอพรข้อแรกให้เขาได้เป็น “เจ้าชายอาลี” เพื่อจัดขบวนขันหมากสุดอลังการไปสู่ขอ “เจ้าหญิงจัสมิน” เขาไปพร้อมกับพรมวิเศษและพาเจ้าหญิงเหาะชมโลกในเพลง “A Whole New World” แต่ทุกอย่างไม่จบแค่นั้น เพราะมันแค่จุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งสำคัญ…

แม้ผ่านมาเกือบ 30 ปี แต่ “อะลาดิน” เวอร์ชั่นนี้ไม่ลืมหยิบบทเพลงในตำนาน “A Whole New World” ที่ชนะออสการ์ครั้งที่ 65 สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รวมถึงชนะรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 36 สาขาเพลงแห่งปี จนกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกมาใส่ไว้ในหนังด้วย

 

นอกจากนั้นในเวอร์ชั่นคนแสดงนี้ แฟนแอนิเมชั่นจะไม่ผิดหวัง เพราะดิสนีย์ยกเรื่องราวความประทับใจจากแอนิเมชั่นมาแบบฉากต่อฉาก ทั้งฉากในถ้ำมหัศจรรย์ ฉากปราสาทของสุลต่าน ฉากพาเหรดสุดอลังการของเจ้าชายอาลี รวมถึงฉากท่องเมืองอัคราบาห์ยามราตรีของ “อะลาดิน” และ “จัสมิน” บนพรมวิเศษ ที่ทำให้หวลคิดถึงความประทับใจในครั้งเก่า

“Aladdin” ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยการผจญภัย การแย่งชิงบัลลังก์ของจาฟาร์ และความอลังการของโปรดักชั่น โดยเฉพาะการสร้างฉากเมืองอัคราบาห์ขึ้นมาจริงๆ ในโรงถ่ายที่กรุงลอนดอนและแหล่งทะเลทรายอันน่าทึ่งของประเทศจอร์แดน

4 ตัวละครหลักที่จะพา “อะลาดิน” ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งนำทีมโดย “มีนา มาสซูด” รับบท “อะลาดิน” เด็กข้างถนนเจ้าเสน่ห์แห่งเมืองอัคราบาห์ เขาอยากทิ้งชีวิตการเป็นหัวขโมยไว้เบื้องหลัง เพราะเชื่อว่าตนเองเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เขาจึงปรารถนาว่าสักวันจะได้ออกผจญภัยในโลกกว้าง…

“นาโอมิ สก็อตต์” กับบท “เจ้าหญิงจัสมิน” พระธิดาผู้เลอโฉมขององค์สุลต่าน พระองค์ทรงเป็นองค์หญิงที่กล้าหาญและเชื่อมั่นในพระองค์เอง เจ้าหญิงทรงปรารถนาจะสัมผัสชีวิตนอกพระราชวังและทรงตั้งพระทัยว่าจะใช้อำนาจความเป็นเจ้าหญิงช่วยเหลือประชาชนชาวเมืองอัคราบาห์ให้ได้

วิล สมิธ (AFP)

เจ้าหญิงดิสนีย์ “จัสมิน” จะทำให้ทุกคนตะลึงกับความงดงามของเธอจนไม่อาจละสายตา ไม่ว่าจะด้วยลุกส์ การแต่งหน้าและคอสตูมสุดปังกว่า 10 ชุด ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ภาพยนตร์เรื่องนี้การันตีว่าทุกคนจะได้เห็นเสื้อผ้าใหม่ๆ ของ “จัสมิน” ที่ไม่เคยเห็นในเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมาก่อน

นอกเหนือจากนั้นในแง่การแสดงออกทางความคิดตัวละครก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ผู้กำกับ “กาย ริชชี่” พยายามทำให้ตัวละครนี้แตกต่างจากเจ้าหญิงในยุคนั้นๆ ด้วยทัศนคติที่ไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชนและต้องแต่งงานกับเจ้าชายเท่านั้น

ขาดไม่ได้เลย สีสันของเรื่อง “วิล สมิธ” กับบทสุดท้าทาย “จีนี่” สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์สีน้ำเงินที่ถูกจองจำอยู่ในตะเกียงน้ำมัน เขาสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองได้ เขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น จัดจ้านไม่เหมือนใคร จีนี่มาพร้อมความสามารถพิเศษ คือการดลบันดาลให้คำขอพรใดๆ ก็ตามเป็นความจริง แต่เดิมจีนี่ถูกกักตัวอยู่ในตะเกียงน้ำมัน และการผจญภัยกับ “อะลาดิน” ช่วยให้เขาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า “มิตรภาพ”

“วิล สมิธ” พยายามใส่ความเป็นตัวตนของเขาลงในตัวละครเพื่อสร้างความแตกต่างจากแอนิเมชั่น ยิ่งกว่านั้นในเวอร์ชั่นไลฟ์-แอ๊กชั่นนี้ เขาลงทุนฝึกฝนฝีมือด้านต่างๆ มาเต็มที่เพื่อมาโชว์ความสามารถทางการแสดง การร้อง การเต้นแบบจัดเต็ม รวมถึงการแร็พให้ทุกคนฮือฮา

อีกหนึ่งสีสัน “จาฟาร์” แสดงโดย “มาร์วาน เคนซารี่” เสนาบดีขององค์สุลต่านและยังเป็นจอมเวทย์ผู้ทรงพลังที่มีนิสัยฉลาดแกมโกง จาฟาร์ไม่พอใจแนวทางการปกครองเมืองอัคราบาห์ขององค์สุลต่านและวางแผนยึดครองบัลลังก์มาเป็นของตน

นอกจาก 4 ตัวละครหลัก ยังมีตัวละครใหม่ๆ ที่จะมาสร้างสีสันให้ “อะลาดิน” ในเวอร์ชั่นนี้อีกมากมาย อาทิ “ดาเลีย” ผู้รับใช้และเพื่อนที่เจ้าหญิงจัสมินไว้ใจ, “เจ้าชายอันเดอร์ส” หรือ “ฮาคิม” มือขวาของ “จาฟาร์”

ขึ้นพรมวิเศษออกผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ได้แล้ววันนี้…ในโรงภาพยนตร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน