ตร.หอบสำนวน 48 ลัง คดีแชร์Nice Review ส่ง ดีเอสไอ

ดีเอสไอ / เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองธุรกิจการเงินนอกระบบ

ร่วมแถลงข่าวรับมอบสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด หรือแชร์ Nice Review จำนวน 95927 หน้า หรือ 48 กล่อง และรถยนต์ของกลางในคดี

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอรับคดีแชร์ Nice Review เป็นคดีพิเศษที่ 161/2562 เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยมอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เป็นผู้รับผิดชอบกรณีดังกล่าว

ขณะที่วันนี้ได้รับมอบสำนวนเพื่อทำการสอบสวน โดยจนถึงปัจจุบันพบว่ามีผู้เสียหายจำนวน 2,060 ราย มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 368,677,861.86 บาท ซึ่งปปง. อายัดทรัพย์ไว้แล้ว 175 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหา และฝากขังแล้ว 3 ผัด ทำให้เหลือเวลาสอบสวนของดีเอสไอและอัยการอีก 5 ผัด หรือ 60 วัน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ดังนั้น ดีเอสไออาจต้องสรุปสำนวนสั่งฟ้องบางข้อหาไปก่อน ไม่เกินเดือนก.พ.2563 พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายเร่งติดต่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยืนยันตัวเลขความเสียหายที่แท้จริง และพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชน เพื่อประโยชน์กับตัวผู้เสียหายในการเฉลี่ยทรัพย์คืน

เนื่องจากปปง.จะเฉลี่ยทรัพย์ตามคำพิพากษาให้ผู้เสียหายในสำนวนเท่านั้น โดยผู้เสียหายสามารถลงทะเบียนข้อมูลผ่านระบบคิวอาร์โค้ดที่หน้าเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เท่านั้น

เนื่องจากมีกำหนดระยะเวลาในการส่งสำนวนและผู้ต้องหาต่อพนักงานอัยการ สำหรับคดีแชร์ออมเงินกับแม่มณี มีผู้เสียหาย 3,965 ราย มูลค่าความเสียหาย 2 พันล้านบาท สามารถอายัดทรัพย์ได้แล้ว 56 ล้านบาท ขณะที่การสอบสวนพบผู้ต้องหาเป็นแม่ข่าย 150 ราย และเป็นแอดมินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับโอนเงินอีก 20 ราย คาดว่าดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการวันที่ 8 ม.ค. ส่วนคดีแชร์ Forex 3D อายัดทรัพย์ไว้แล้ว 91 ล้านบาท

“จากการสอบปากคำผู้เสียหายในคดีแชร์ลูกโซ่ ระยะหลังผู้เสียหายรู้ว่าการลงทุนในลักษณะดังกล่าวเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่ขอเข้าก่อน 3-4 งวด เพื่อให้ได้เงินก่อนแล้วจึงถอนเงินทุนออก พร้อมทั้งยังชักชวนญาติพี่น้องเข้าร่วมลงทุนด้วย พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นผู้ต้องหาด้วย เพราะเงินโอนผ่านบัญชีชัดเจน ดังนั้น ดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว

ด้านพล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ หน.ฝอ.ศปอส.ตร. กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 9 ภูมิภาค พร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย และส่งต่อให้ดีเอสไอ และปปง. ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วม โดยวันนี้ได้นำสำนวน พร้อมตู้เซฟและรถยนต์ของกลางในคดีส่งให้ดีเอสไอ พร้อมขอแจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังการเชิญชวนลงทุนผ่านโซเซียลทุกรูปแบบ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องมีเบอร์โทรศัพท์และสายด่วน พร้อมให้คำปรึกษาก่อนการลงทุน

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน