ตรวจสอบเข้มงบปี 64
จัดทัพ-ลุยเลือกอบจ.
สส.ทีม4กุมารโพสต์ซัด
‘บิ๊กอาย-โบท็อกซ์’ทราม

ลุยท้องถิ่น – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จัดอบรมว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รวม 18 จังหวัดเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่อาคารไทยซัมมิท เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

‘ธนาธร’ เมินกระแส ถูกโจมตีนั่งกมธ.งบฯปี 2564 ลั่นขอเป็นตัวแทนของประชาชน ตรวจสอบการใช้งบของรัฐบาล ยันกฎหมายไม่ได้ห้าม พร้อมติวเข้มผู้สมัครอบจ. ส่งสู้ศึกทั่วประเทศ มั่นใจได้เกินครึ่ง ปชป.ย้ำอีกงบปี 64 ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤตโควิด ชี้อย่าทำแค่เป็นพิธีกรรม ‘นิพนธ์’นำแกนนำภาคเหนือประกาศหนุน ‘จุรินทร์-เฉลิมชัย’ ทำงานต่อ ‘วันนอร์’ จี้ 72 กมธ.ต้องกล้าแก้งบปี 64 แนะ

‘บิ๊กตู่’ ดึงซุปตาร์มือเศรษฐกิจร่วมทีม พปชร.ร้าวอีก ส.ส.ทีม 4 กุมารโพสต์เหน็บ‘บิ๊กอาย-โบท็อกซ์’ ซัดแรงจิตใจต่ำทราม ‘ช่อ’ลั่นยื่นฟ้องสัปดาห์หน้า ปมกล่าวเงินบริจาคไม่โปร่งใส

สภาฉลุยผ่านพรบ.งบปี 64

วันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท วาระแรก ระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค.นั้น ปรากฏว่าเมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่ประชุมสภาลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี

2564 โดยเห็นด้วย 273 เสียง ไม่เห็นด้วย 200 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง จากนั้นตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 จำนวน 72 คน แปรญัตติ 30 วัน โดยเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 8 ก.ค. เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 6 อาคารรัฐสภา

ธนาธรนั่งกมธ.สัดส่วนก้าวไกล

ทั้งนี้ 1 ใน 6 คนจากสัดส่วนของพรรคก้าวไกล มีการเสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) รวมเป็น กมธ.ด้วย โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม สั่งปิดการประชุมในเวลา 23.43 น. ทั้งนี้ การประชุมทั้ง 3 วันใช้เวลา 46 ชั่วโมง

พปชร.ลุยลงพื้นที่แก้ปากท้อง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ว่า ส.ส.พปชร.ได้อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ รอบด้าน เพิ่มเติมประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และหลังจากนี้ส.ส.พปชร.จะลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินตามนโยบายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่ให้ส.ส.ทุกคนร่วมมือกัน รับฟังปัญหาทุกข์ร้อนของ

ประชาชน มานำเสนอกับพรรค เพื่อจะได้เดินหน้าทำนโยบายเพื่อประชาชนอย่างตรงจุด แก้ปัญหาในระยะสั้นโดยเฉพาะผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเข้าถึงและทั่วถึงต่อไป

วันนอร์จี้ 72 กมธ.ต้องกล้าแก้งบ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการ

อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 64 ว่า การอภิปราย 3 วันที่ผ่านมา จากข้อมูลของรัฐบาลที่ไม่ตั้งอยู่บนข้อมูลความเป็นจริง เพราะครม.ได้อนุมัติวงเงินนี้ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2562 ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นผิดกับวันนี้ เพราะชัดเจนว่ารายได้ไม่เข้าเป้า ภาษีเก็บไม่ได้ ขาดหายแน่ๆ 4-5 แสนล้าน รายได้จากการ

ท่องเที่ยวในปีนี้มีคนมาเที่ยว 10 ล้านคนก็เก่งแล้ว ขณะที่การว่างงานในปีนี้จะเพิ่มมากขึ้นอีก เป็นภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ในที่สุดก็ต้องแก้ไขงบ จึงอยู่ที่กมธ.ทั้ง 72 คน จะกล้าแก้งบปี 64 หรือไม่ แต่ถ้าเกรงใจข้าราชการ สุดท้ายต้องออกพ.ร.ก.กู้เงิน กลางปี 2565 เพราะไม่มีเงินใช้

แนะ‘ตู่’ดึงซุปตาร์มือเศรษฐกิจ

หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการปรับครม.โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ นายกฯ ต้องไม่เห็นแก่พวกพ้องหรือหน้าใคร ต้องเป็นผู้นำแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องเอามือเศรษฐกิจรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์เยอะ ตนขอร้องเลยให้ดึงมือระดับซูเปอร์สตาร์ด้านเศรษฐกิจมาเลย นายกฯต้อง

ไปขอร้องเพื่อชาติบ้านเมืองมาทำงาน ต้องมีทีมเศรษฐกิจแบบนิวนอร์มัล

ปชป.ซัดจัดงบไม่ตอบโจทย์

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบปี 2564 ว่า ตนพอใจการทำหน้าที่ของส.ส.ปชป. ที่นำเสนอข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแบบเจาะลึก เน้นการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ โดยชี้ให้เห็นถึงการจัดทำงบครั้งนี้ยังทำงบแบบปกติเหมือนทุกๆ ปี ทั้งที่ประเทศมีวิกฤตจาก โควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก

แต่การจัดทำงบยังไม่ตอบโจทย์เพื่อแก้วิกฤตเท่าที่ควร รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ก็ไม่ชัดเจนว่างบปี 64 จะช่วยเหลือคนกลุ่มนี้มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังไม่คำนึงถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ และละเลยความเดือดร้อนของชาวบ้าน เช่น เรียกร้องให้มีถนนมอเตอร์เวย์ เพื่อเป็นถนนทางเลือกให้คนภาคใต้เพิ่มขึ้น รวมถึงเรียกร้องให้จัดสรรงบเพื่อ

แก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ

จี้วิป 2 ฝ่ายทบทวนเวลาประชุม

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคปชป. กล่าวว่า ยอมรับว่าการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบครั้งนี้ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเท่าที่ควร เนื่องจากใช้เวลาประชุมแต่ละวันมากเกิน ไป ถ้าหากต้องการให้การประชุมสภามีประสิทธิภาพ เป็นที่สนใจของประชาชน ควรกำหนดเวลาเลิกไม่เกินเวลา 21.00-22.00 น. เท่านั้น แต่หากต้องการให้เป็นแค่พิธีกรรมก็ประชุมตาม

ที่วิป 2 ฝ่ายกำหนด จึงขอเสนอให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายทบทวนวิธีการประชุมสภาใหม่ คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะใช้เวลาประชุมกี่วันก็ได้ แต่ควรเลิกไม่เกินเวลา 22.00 น. แม้จะมีปัญหาการเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมสภาในแต่ละวันแต่ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของส.ส.ทุกคน ข้ออ้างเรื่องการเซ็นชื่อกลัวองค์ประชุมจะไม่ครบนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะต้องยึดผลประโยชน์ของส่วนรวมให้

มากกว่าส่วนตน

ปชป.ภาคเหนือตบเท้าหนุน‘อู๊ดด้า’

ที่ จ.เพชรบูรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคปชป. ประธานกิจการสาขา ตัวแทนเขต สมาชิกพรรค พร้อมด้วยนาย นราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ นายธนิตพล ไชยนันทน์ อดีตกก.บห. และกลุ่มแกนนำพรรคภาคเหนือ รวมทั้งอดีตส.ส.พรรค ร่วมประชุมพบปะเพื่อสนับสนุนการทำงานตามนโยบายของพรรค ที่มีนาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย

ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค รวมถึงกก.บห.ที่ทำงานในบทบาทของรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีตส.ส.สุโขทัย แกนนำพรรคภาคเหนือ กล่าวว่า กลุ่มภาคเหนือได้ลงพื้นที่พบว่านโยบายต่างๆ ที่รัฐมนตรีพรรคได้ลงไปทำภายใต้การนำของนายจุรินทร์นั้น เป็นไปเพื่อการ

สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นนับหมื่นคนในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกลุ่มแกนนำทางภาคเหนือก็พร้อมสนับสนุนการทำงานทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่ประชาชนและประเทศชาติต่อไป

สมเจตน์ฉะตั้งธนาธรเป็นกมธ.

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. กล่าวถึงพรรคก้าวไกล เสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า เป็นกมธ.พิจารณางบปี 64 ว่า การเมืองไทยสิ้นไร้นักการเมืองดีๆ แล้วหรือ ไม่น่าเชื่อว่าพรรคก้าวไกล ที่ชอบอ้างว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ แต่ไร้จริยธรรม ไม่มีความละอาย ไปเสนอชื่อคนที่มีมลทินทางการเมือง เข้ามาทำงานการเมือง ทำเสมือนการเมืองไทยสิ้นไร้ไม้ตอก หา

นักการเมืองดีๆ มาทำงานการเมืองไม่ได้แล้ว ต้องไปขุดเอาคนที่มีมลทิน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองมาทำงานการเมือง ไม่ละอายทั้งคนที่เสนอชื่อและคนที่ถูกเสนอ แล้วจะมาสร้างการเมืองใหม่ได้อย่างไร

ปค.เด้งรับ-สอบคุณนายนั่งปิกอัพ

นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านอภิปรายถึงการใช้งบจัดซื้อรถ

ปิกอัพแล้วให้คุณนายใช้นั่ง จนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจงพร้อมคาดโทษ ใครทำให้เอาออกจากราชการว่า ตอนนี้เราสั่งให้ตรวจสอบ ถ้าใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม ทุกกรณีต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ ทั้งนี้ ผู้อภิปรายต้องชี้เบาะแสมาด้วยว่ามีใครบ้างเพื่อเป็นข้อมูลให้เรา ส่วนการจัดซื้อรถปิกอัพนั้น เรานำมาใช้ในกิจการ

ด้านความมั่นคงเป็นหลัก โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้ เราต้องดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนใหญ่เป็นรถกันกระสุน

สส.4กุมารฉะ‘บิ๊กอาย’คนเนรคุณ

นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กลุ่ม 4 กุมาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า “คนที่เนรคุณผู้มีพระคุณ คนที่หักหลังเพื่อน เพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ เป็นคนที่จะฝากความหวังไว้ได้หรือไม่”

จากนั้นนายสันติ โพสต์ข้อความอีกว่า “การศึกษาสูง ไม่สามารถยกระดับจิตใจที่ต่ำตมให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องสำอาง โบท็อกซ์และบิ๊กอาย ไม่สามารถปกปิดสันดานต่ำทราม”

ธนาธรเมินถูกโจมตีนั่งกมธ.

เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำการคณะก้าวหน้า อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะ

ก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีได้รับแต่งตั้งเป็นกมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณางบประมาณปี 2564 ว่า ยืนยันว่าการเข้าเป็นกมธ.ครั้งนี้ ตนจะทำงานให้เต็มที่ สมกับที่ได้รับการแต่งตั้งจากสภา เพื่อตรวจสอบการใช้งบของฝ่ายบริหารและเสนอแนะการใช้งบเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน ตนจึงขอเป็นตัวแทนประชาชน เพื่อตรวจสอบการทำงานและเสนอแนะให้ใช้งบให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อถามว่ามีกระแสโจมตี เพราะก่อนหน้านี้เคยลาออกจากกมธ.พิจารณางบปี 2563 นายธนาธรกล่าวว่า บริบทปีที่แล้ว ตนถูกตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง จึงยอมลาออกจากกมธ. แม้เราถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ไม่ได้หมายถึงความเป็นพลเมืองถูกตัดสิทธิไปด้วย ดังนั้น การเป็นกมธ.ในครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ ไม่มีกฎหมายห้าม

ส่วนที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เรียกร้อง ให้ชี้แจงกรณีการบริจาคเงินในกิจกรรม “คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน” นายธนาธรกล่าวว่า วันนี้อยากพูดเรื่องท้องถิ่น ไม่อยากพูดเรื่องอื่น แต่พร้อมชี้แจง ที่ผ่านมาเคยเปิดรายการเดินบัญชีไปแล้วด้วยซ้ำ ตนขอไว้โอกาสหน้า พร้อมตอบทุกประเด็น

ลั่นส่งผู้สมัครท้องถิ่นทั่วปท.

นายธนาธรกล่าวถึงการติวเข้มผู้สมัครองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อลุยศึกเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศว่า วันนี้ซักซ้อมทำความเข้าใจผู้สมัครนายก อบจ. และสมาชิกสภาอบจ.ทั่วประเทศ โดยจะส่งผู้สมัครทั้งหมดใน 18 จังหวัดในนามคณะก้าวหน้า ถือเป็นการพบปะกันครั้งแรก ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าทำงานการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นทุกระดับเป็นทิศทางที่เราจะ เดินไป

เมื่อถามว่าความแตกต่างระหว่างการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า กับการเมืองท้องถิ่นในแนวทางของคณะก้าวหน้า นายธนาธรกล่าวว่า คณะก้าวหน้ายืนยันใช้แนวทางของพรรคอนค.เดิม คือ แข่งขันด้วยอุดมการณ์ ด้วยความจริงใจและความคิดสร้างสรรค์ เอานโยบายใหม่ๆ มาพัฒนาเมือง ไม่ใช้เงินซื้อเสียงที่จะเป็นจุดเริ่มต้นการทุจริต เพราะ เมื่อใช้เงินก็จะมีการถอนเงินคืน ทำให้ประชาธิปไตยไม่เข้ม

แข็ง ดังนั้น เรายืนยันไม่ใช้เงิน ไม่ใช้อิทธิพลและไม่ใช้เครือข่าย แต่จะใช้นโยบายเป็นตัวนำ
นายธนาธรกล่าวถึงการส่งผู้สมัครลงชิง ผู้ว่าฯ กทม.ว่า ตอนนี้ยังไม่ให้ความสำคัญถึงตรงนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระดับนายกอบจ. หรือส่วนท้องถิ่น และยังเปิดรับผู้สมัครเรื่อยๆ หากใครสนใจเข้ามาร่วม โดยหวังอยากให้มี ผู้สมัครทั่วประเทศ จึงอยากเชิญชวน หากใครเบื่อ ทนไม่ไหวที่เห็นบ้านตัวเองไม่พัฒนา

และอยากเปลี่ยนบ้านเกิด ขอให้มาร่วมกับคณะก้าวหน้า เพื่อให้เป็นผู้บริหารระดับท้องถิ่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัวการเมืองหรือเป็นผู้มีอิทธิพล แต่ใครมีอุดมการณ์เดียวกับพวกเราขอเชิญชวน

มั่นใจได้เก้าอี้เกินครึ่ง

จากนั้น นายธนาธรกล่าวเปิดสัมมนา “เตรียมนำทัพลุยศึกเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ” ตอนหนึ่งว่า ถ้าไม่มีการยุบพรรคอนค. เราจะเดินหน้าในส่วนท้องถิ่น แต่เมื่อถูกยุบ เราก็ไม่ถอย ไม่ได้ยอมแพ้ ยังมุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยต่อไป จึงตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อรณรงค์ทางความคิดที่ก้าวหน้า เป็นประชาธิปไตยในเรื่องต่างๆ ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ การต่อสู้นายทุนที่ผูกขาด การสร้างรัฐสวัสดิการ ซึ่งคณะก้าวหน้าจะยังคงรณรงค์อย่างต่อเนื่อง

นายธนาธรกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกหลังจากไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมาแล้วอย่างน้อย 6 ปี นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเสนอคนใหม่ รูปแบบการทำงานใหม่เข้าสู่การทำงานแบบท้องถิ่น การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ เป็นการต่อสู้กับเผด็จการ ที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงถูกลิดรอนบทบาทและอำนาจ ถ้าไม่มีการลุกขึ้นสู้ ก็ไม่มีทางนำการปกครองส่วนท้องถิ่นกลับคืนสู่

ประชาชนได้เลย

นายธนาธรกล่าวว่า งานการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มี 7,000 กว่าองค์กร รวมทุกระดับทั่วประเทศ ถือเป็นครั้งแรกที่เราสามารถส่ง ผู้สมัครครบทุกท้องถิ่นได้ และเป้าหมายของเรา คือได้รับการเลือกตั้งเกินครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 4,000 แห่งทั่วประเทศ เพราะประชาชนต้องการเลือกคนใหม่ เพื่อมาพัฒนา

ท้องถิ่น

สมลักษณ์แฉทหารเคยล็อบบี้

ต่อมามีเสวนาเรื่อง “องค์กรอิสระไทย อย่างไรต่อดี : คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)” โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา และอดีตป.ป.ช. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอร์รัปชั่น

และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โดยมี น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นผู้ดำเนินรายการ

น.ส.สมลักษณ์กล่าวว่า สมัยที่ตนเป็น กรรมการป.ป.ช. เคยมีทหารโทรศัพท์มาขอทราบข้อเท็จจริงในสำนวนคดีหนึ่ง ตนบอกให้ใครทราบไม่ได้ ไม่เกี่ยวข้องในสำนวน คดีจะเสียหายไม่เป็นธรรม จึงตอบให้

เขาไปบอกเจ้านายให้ติดต่อประธาน ป.ป.ช. ว่าอยากทราบ ให้ประธาน ป.ป.ช. สั่งเป็นลายลักษณ์อักษรมา ซึ่งตนมั่นใจว่าท่านไม่สั่งแน่ ถ้าเราใจแข็งไม่ให้รู้ เขาก็ไม่มายุ่งกับเราได้

วีระซัดป.ป.ช.ไม่ปลอดการเมือง

ด้านนายวีระกล่าวถึงผลงานของ ป.ป.ช.ว่า ที่ผ่านมาสังคมไทยไม่เห็นผลงานของ ป.ป.ช.เป็นที่ยอมรับ

จะเป็นโบแดงได้ต้องยอดเยี่ยม ตนยังไม่เคยเห็น บางคนอาจบอกเรื่องการชี้มูลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกฯไปถึงศาลนั้น ตนยังไม่จัดว่าเป็นโบแดง เพราะประชาชนมองเป็นเรื่องการเมือง ตัดสินเพราะมีการเมืองเกี่ยวข้อง กรณีนาฬิกา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คนก็มองเป็นการเมืองหมด

นายวีระกล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ให้องค์กรอิสระต้องปลอดจากการเมือง แต่กลายเป็นถูกมองว่ามีการเมืองมาตลอด นักการเมืองพยายามเข้าไปแทรกแซง ระยะหลังยิ่งชัดเลยเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามามีอำนาจ กำหนดคุณสมบัติต้องซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ แต่ถามว่าซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูผลงานยิ่งกว่าเรื่องคุณสมบัติอีก ประชาชนไม่ยอมรับ

คดีหลังๆ ทุกเรื่องที่คนของ คสช.ถูกกล่าวหาปัดตกหมด ไม่รับไว้ไต่สวนเลย เรื่องที่ตนร้องไม่ว่านาฬิกา 22 เรือน เรื่องบัญชีทรัพย์สินเท็จ และเรื่องร่ำรวยผิดปกติ วันนี้ยังดองเรื่องอยู่ในชั้นตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ยังไม่ตอบเลยว่ามีมูลหรือไม่ ประชาชนจึงหมดศรัทธาที่การเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนนายณัฐพงษ์กล่าวว่า อยากให้ ป.ป.ช. ทำงานอิสระ โปร่งใส ตรวจสอบนักการเมืองได้ เป็นเครื่องมือยึดโยงประชาชนเข้าไปตรวจสอบนักการเมืองได้มากขึ้น ในต่างประเทศใช้เทคโนโลยีปราบทุจริตด้วยการ Open Data ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งปัจจุบันในไทย หน่วยราชการบอกเปิดเผยอยู่แล้ว แต่เราต้องไปนั่งรวบรวมมาเอง ต่างกับการเปิดเผย โดยง่าย

‘ช่อ’ขู่ฟ้องปมกล่าวหาเงินบริจาค

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกกล่าวหาไม่โปร่งใสเรื่องเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ว่า การฟ้องร้องบุคคลและกลุ่มบุคคลที่กล่าวหาว่าเรายักยอกเงินหรือมีความไม่โปร่งใส ขณะนี้ได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้ทีมทนายเป็นผู้เขียนคำฟ้อง คาดว่าจะเสร็จและฟ้องร้องได้ภายในต้นสัปดาห์หน้า ส่วนการเปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดโครงการเมย์เดย์

เมย์เดย์ ที่ผ่านมาคณะก้าวหน้าพร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้ว ทั้งรายละเอียดโครงการ รายชื่อบุคคลที่ได้รับเงินกว่า 2,000 คน และโอนเงินเรียบร้อยแล้ว นำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างโปร่งใสทุกประการ
น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ข้อเรียกร้องให้เปิดเผยสลิปการโอนเงินนั้น เป็นเรื่องที่เรากังวล เพราะมีข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งเลขบัญชีและชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเราไม่อยากเปิดเผย แต่เมื่อมีกระแสเรียกร้อง ทางเรา

ก็ยินดี เอกสารหลักฐานการเงินทั้งหมดได้ถูกเก็บไว้ในระบบอยู่แล้ว ไม่ลำบากที่จะเปิดเผย เมื่อมีการฟ้องร้องคดีแล้ว จะให้ทีมกฎหมายชี้แจงถึงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ส่วนจะฟ้องใครและข้อหาอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับทีมทนาย เขียนคำฟ้องเสร็จก็จะไปฟ้องร้อง และจะชี้แจงกับสังคมภายหลังการฟ้องร้องแล้ว ยืนยันว่าคณะก้าวหน้าดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส และพร้อมรับการตรวจสอบเสมอ

‘ก้าวไกล’ตีปี๊บส่งผู้สมัครชิงปากน้ำ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกับทีมงานพรรค จ.สมุทรปราการ เดินสายพบปะประชาชนในพื้นที่เขต 5 สมุทรปราการ เพื่อแจ้งข่าวสารว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเขตนี้ เนื่องจากนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีตส.ส.พรรคพลัง

ประชารัฐ โดนใบเหลืองจากการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 โดยขอให้เตรียมตัวและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดว่าจะประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งในวันใด

นางอมรัตน์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนติดตามการทำงานของส.ส.พรรคก้าวไกล ที่สานต่อภารกิจอนาคตใหม่ และเมื่อมีเลือกตั้ง อยากให้ประชาชนพิจารณาเลือกพรรค เลือกผู้สมัครที่ตอบโจทย์ความต้องการและรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด ทั้งนี้ พรรคยังอยู่ในกระบวนการสรรหาผู้สมัครอย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าเราสู้แน่ เราลงสมัครแน่ เพราะเราพร้อมชน

กับปัญหาของประเทศ ไม่ยอมเกี้ยเซี้ยกับใคร

ปชช.สวดมนต์ให้กำลังใจ‘ตู่’

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง ทำบุญสวดมนต์ให้กำลังใจบิ๊กตู่ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,332 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-3

ก.ค. ถึงเหตุปัจจัยของวิกฤตเศรษฐกิจประเทศและเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ไม่พอใช้ พบว่า ร้อยละ 82.4 ระบุโรคโควิด-19 เกิดทั่วโลก ร้อยละ 17.6 ระบุปัจจัยอื่นๆ เช่น นักการเมืองมัวแต่ทะเลาะกัน การแก้ปัญหาของรัฐบาลและประชาชนทำตัวเอง ขณะที่ผลประเมินภาพรวมการแก้ปัญหาผลกระทบของโควิด-19 โดยรัฐบาล พบว่า ร้อยละ 54.5 ระบุรัฐบาลแก้ปัญหาได้ดีค่อนข้างมาก ถึงดีเยี่ยม

ร้อยละ 45.5 ระบุค่อนข้างน้อย ถึงไม่ดีเลย

ที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 57.1 ตั้งใจจะทำบุญสวดมนต์ให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในวันอาสาฬหบูชานี้ให้แก้ปัญหาวิกฤตต่างๆ ของประเทศผ่านพ้นไปได้อย่างดี ร้อยละ 42.9 ระบุไม่ทำ อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 73.9 ระบุ นายกฯควรรักษาคนดีไว้ข้างกายทำงานต่อเนื่อง ร้อยละ 26.1 ระบุปล่อยให้มันเป็นไป

ที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ 92.9 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งที่นายกฯควรใช้โอกาสนี้ ขจัดนักการเมืองที่จ่ายเงินซื้อเสียงเข้ามาหมดไปเลย อย่าให้โอกาสพวกเขาถอนทุนคืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน