ว่าที่ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย เดินตลาดผ้านาข่าทอพื้นเมืองอีสานที่อุดรธานี เตรียมผลักดันเป็น1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์สู่ระดับโลก นำรายได้เข้าประเทศ หลัง ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ นักร้องสาวชื่อดังสวมใส่ถ่ายภาพกับ โบราณสถานอยุธยาจนกระแสฮิต ฝากคนไทยอุดหนุนผ้าไทย ชี้ศักยภาพ ภูมิปัญญาคนไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลก

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่จ.อุดรธานี ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกอบด้วย น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ชนก จันทาทอง ว่าที่ส.ส.หนองคาย และน.ส. ประภาพร ทองปากน้ำ ว่าที่ส.ส.สุโขทัย เดินตลาดผ้านาข่าทอพื้นเมืองของภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นซอฟต์เพาเวอร์ ที่เกิดจากภูมิปัญญาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเพื่อเตรียมผลักดันและต่อยอดไปสู่สากล

ผ้าทอฮิต – ว่าที่ส.ส.หญิง พรรคเพื่อไทย สวมใส่ชุดผ้าทอมือ ตลาดผ้านาข่า จ.อุดรธานี ตลาดที่ ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ เลือกชุดผ้าทอมือสวมใส่ถ่ายภาพกับโบราณสถานจนโด่งดัง พร้อมผลักดันเป็น 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

ทั้งนี้ ตลาดผ้านาข่าถือเป็นหมู่บ้านที่ขายผ้าพื้นเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นตลาดผ้าที่น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” นักร้องสาวชื่อดังก้องโลก เลือกนำชุดผ้าฝ้ายทอมือหมักโคลนจากที่นี่ มาสวมใส่ถ่ายภาพกับโบราณสถานที่ จ.พระนครศรีอยุธยาจนโด่งดังไปทั่วโลก

น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าวว่า กระแสลิซ่า แบล็กพิงก์ ใส่ผ้าฝ้ายทอมือหมักโคลนทำบุญไหว้พระจนเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ เป็นเครื่องสะท้อนว่าอุตสาหกรรมซอฟต์เพาเวอร์อันเกิดจากภูมิปัญญา ความประณีตในงานฝีมือ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของคนไทยยังได้รับความสนใจจากนานาประเทศ การส่งเสริมให้อุตสาหกรรมซอฟต์เพาเวอร์เติบโตทั้งในระดับชุมชน และก้าวสู่เวทีโลก เป็นสิ่งที่พรรคพท.ผลักดันมาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย เพราะเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นรายได้ใหม่ให้คนไทยในการส่งออก ถ้าได้รับการสนับสนุนส่งเสริมอย่างจริงจังจากรัฐบาล ทั้งนี้นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ของพรรคพท. คือนโยบายเพื่อเฟ้นหาศักยภาพคนไทยใน ทุกครอบครัวสู่การจ้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ตั้งแต่ดนตรีพื้นบ้าน สิ่งทอ ศิลปะร่วมสมัย ภาพยนตร์ อาหาร โดยการปลดล็อกกฎหมาย ทลายทุกอุปสรรค พร้อมสนับสนุนเงินทุน ขยายการส่งออกผ่านนโยบายต่างประเทศ โดยมี “THACCA” (Thailand Creative Content Agency) ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จและงบประมาณที่เพียงพอ ทำหน้าที่สร้างระบบนิเวศทั้งหมด เพื่อสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์เพาเวอร์ไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปรากฏการณ์ผ้าไทยที่เกิดขึ้นวันนี้ คือเครื่องการันตีว่าเรามีสินค้าดี มีพรีเซ็นเตอร์ระดับโลก มีคนไทยเก่งๆ ในทุกแขนงของศิลปะและวัฒนธรรมที่คนทั่วโลกรู้จัก ถ้ารัฐบาลจริงจังต่อยอดและทำเป็น จะนำรายได้เข้าประเทศมหาศาล

ด้านน.ส.ชนกกล่าวว่า ชุดผ้าไทยที่ลิซ่าเลือกหยิบมาสวมใส่เป็นเสื้อผ้าฝ้ายสีขาว และผ้าถุงฝ้ายมัดหมี่ จากผลิตภัณฑ์ชุมชนตลาดผ้านาข่า จ.อุดรธานี ตอกย้ำความสำเร็จของนโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่เคยส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ จากการหาจุดเด่นของทรัพยากร ภูมิปัญญาในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ มีจุดเด่นและมูลค่าเพิ่ม ความสำเร็จนี้ถูก ส่งมอบเพื่อต่อยอดความสำเร็จและสร้าง รายได้ให้กับประชาชนอีกครั้งผ่านนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ เรียนฟรี มี งานทำ โดยเราเชื่อในศักยภาพและภูมิปัญญา ของคนไทยว่าเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งนี้ พวกเราควรจะใช้โอกาสที่ดีนี้เร่งต่อยอด และผลักดันผ้าทอของอีสานให้สามารถ ส่งออก และทำรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนชาวอีสานได้มากขึ้นอีก

“วัฒนธรรมคนอีสานจะใส่ชุดไทยไปงานบุญ ดิฉันก็ใส่ชุดไทยบ่อยจนเป็นชุดประจำวัน โดยทุกครั้งที่ไปร่วมงานของชาวบ้าน ไม่ว่าจะบุญเบิกบ้าน บุญกฐิน ผ้าป่า งานบวช งานแต่ง งานฌาปนกิจ ดิฉันมักจะเลือกหยิบชุดไทยมาสวมใส่ นอกจากจะเป็นการให้เกียรติเจ้าภาพแล้วยังถูกกาลเทศะและสวยงามด้วย ส่วนใหญ่ดิฉันจะเลือกใส่ผ้าฝ้าย เพราะใส่แล้วไม่ร้อน ดูแลรักษาง่าย จึงอยากฝากพี่น้องคนไทย ช่วยกันอุดหนุนผ้าไทย สนับสนุนสินค้า และผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญาของพวกเราด้วย” น.ส.ชนกกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน