เป้ย ปานวาด เผยมีผู้หวังดีส่งรูป ป๊อป ควงสาวเที่ยวญี่ปุ่น ลั่น ความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร รับมีคนคุย เป็นเซฟโซนที่ดี ชีวิตตอนนี้แฮปปี้
หลังจากกลับมาโสดแบบเต็มตัว ก็เรียกได้ว่าเนื้อหอมสุดๆ สำหรับ เป้ย ปานวาด ที่ล่าสุดในงาน Grand Opening เปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันพิเศษ SWAN X PPW ก็มีผู้หวังดีส่งดอกไม้มาร่วมยินดีกับสาวเป้ย ทำเอาหลายคนอยากรู้ว่าผู้หวังดีคนนั้นคือใคร โดยนักแสดงสาวก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ พร้อมตอบคำถามถึงกระแสข่าวลือ หลังมีเพจดังออกมาเผยว่ามีสามีนางร้ายควงสาวไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนโยงไปถึงสาวเป้ย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า
ช่อดอกไม้ส่งมาทุกอาทิตย์เลย?
“ดอกไม้เต็มบ้านเลย (หัวเราะ) ก็ดีค่ะก็ขอบคุณมากๆ สำหรับผู้หวังดี”
ใจอ่อนหรือยัง?
“ใจอ่อนอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น”
แต่เขาก็ทำอย่างนี้สม่ำเสมอใช่ไหม?
“คือส่วนตัวเป้ยแค่ได้รับสารว่าวันนี้มีดอกไม้มาส่งนะ จะให้ไปส่งที่ไหนหรืออะไรยังไง นอกนั้นเป้ยไม่รู้รายละเอียดเลยค่ะ”
รู้ไหมว่าใครส่งมา?
“ต้องบอกตรงๆ ว่าเป้ยไม่ทราบ”
จริงๆ แม่เปิดใจหรือยัง?
“ตอนนี้ก็มีเรื่องลูกๆ ให้โฟกัสมากกว่ากับเรื่องงานมันเป็นช่วงที่เป้ยต้องทำงานและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตมากๆ เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และอย่างที่บอกคือจิตใจของลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เป้ยจะต้องปกป้องและดูแล อย่างอื่นเป็นเรื่องนอกประเด็นมากๆ สำหรับเป้ย”
แสดงว่าเราก็ไม่ได้ปิดใจใช่ไหมถ้ามีอะไรใหม่ๆ เข้ามา?
“ไม่ได้ปิดค่ะ แต่ถามว่าเป้ยมองเป็นเรื่องหลักๆ ไหมไม่ใช่เรื่องหลักๆ สำหรับเป้ยค่ะ ตอนนี้เอ็นจอยกับการใช้ชีวิต และก็อยู่ในช่วงที่เป้ยกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองและก็ลูก”
แต่ก็มีเข้ามาบ้างไหม?
“มีเข้ามาบ้างค่ะ แต่ที่สุดแล้วอย่างที่บอก เราก็จะมีคนคุยที่เป็นอะไรที่เขาเรียกว่าเป็นเซฟโซนที่ดีมากกว่า แต่ไม่อยากให้โฟกัสว่ามองในรูปแบบความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น”
แต่มองว่าเขาคือเซฟโซนที่ปลอดภัยสำหรับตัวเราเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?
“ก็มีค่ะ ก็คุยแล้วสบายใจ รู้สึกดีค่ะ”
ตอนนี้กำแพงในใจเราสูงขึ้นไหม?
“ที่จริงอาจจะด้วยประสบการณ์หลายๆ อย่างที่มันเข้ามาในชีวิตด้วยว่าขั้นตอนการตัดสินใจ หรือว่าขั้นตอนที่เป้ยจะต้องพิจารณาอะไรสักอย่างเป้ยว่าไม่แน่นอนอยู่แล้วถามว่ากำแพงสูงขึ้นไหมมันก็เป็นไปตามสเต็ปของชีวิตที่เราเจอมาว่าเราเจออะไรมาบ้าง”
แสดงว่าเรามีคนให้คำปรึกษา?
“เรามีเพื่อนที่ดีๆ ที่เรามีความรู้สึกว่าคนคนนี้เป็นเซฟโซนของเราเป็นการพูดคุยที่เรารู้สึกสบายใจที่จะคุยกับเขา เป็นที่ปรึกษาที่วันนี้เราจะทำอะไรแล้วคนนั้นเขาก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้เรา”
แต่เราก็ยังใช้คำว่าเพื่อนกับเขาอยู่?
“ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ตอนนี้จุดประสงค์หลักของเป้ยคือ เป้ยอยากโฟกัสเรื่องของลูกและความมั่นคงของตัวเองก่อน”
แสดงว่าคนๆ นี้เพื่อนคือคนเดียว?
“เพื่อนมีหลายคนก็ได้ พระไชยราชายังมีพระสนมตั้ง 4 คนเลย”
ชีวิตก็ถือว่าแฮปปี้ดี?
“ชีวิตในตอนนี้ ถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่เป้ยรู้สึกดีมากๆ และรู้สึกว่ามันดีจังสำหรับเป้ย และหวังว่าภายภาคหน้าจะเป็นอย่างนี้”
เหมือนว่าตอนนี้ได้เอ็นจอยกับเพื่อนมากขึ้น เหมือนได้ใช้ชีวิต แบบแฮปปี้มีความสุข?
“คือจริงๆ แต่ละบริบทในแต่ละช่วงวัยมันก็มีความสุขที่แตกต่างกัน คำว่าครอบครัวในอดีตที่เป้ยเคยมีมาเป้ยก็มีความสุข ณ โมเมนต์นั้นเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าการที่เราจะเลิกลากับใครคนนึงเราจะมีความสุขมากกว่า ใช่อยู่ที่เรามีชีวิตใหม่ที่มันดี มันแฮปปี้ แต่ไม่ได้บอกว่าในอดีตเราจะไม่มีความสุขเลย ทุกๆอย่าง ทุกๆ ย่างก้าวในชีวิตเป้ยรู้สึกเอ็นจอยในสิ่งที่มันเกิดขึ้นในชีวิตเป้ยอยู่แล้ว คืออะไรที่มันไม่ดีก็มองว่า มันคือสิ่งที่เปิดให้เรียนรู้และก็คือประสบการณ์ชีวิต ทำให้เป้ยเติบโตขึ้นในช่วงของวัยต่อๆ ไปของเป้ยเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเป้ย”
หลังจากไปออกทริปกับ ป๊อป นิธิ และ ครอบครัว มีการพูดคุยกันเพิ่มขึ้นมากไหม?
“เรื่องรายละเอียดแล้วก็จะคุยกันหลังบ้าน ว่าไปถึงขั้นตอนไหน แต่ว่าก็ยังไม่ได้สรุปเป็นเรื่องเป็นราวสักที”
แต่ก็มีพูดคุยถามไถ่เรื่องลูก?
“ในเรื่องลูกเราคุยกันตลอดเวลา เราจะอัพเดทกันตลอดเวลาอยู่แล้ว”
จะมีโอกาสคุยกันมากขึ้นจนความสัมพันธ์กลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม?
“ไม่มีค่ะ เป้ยคิดว่ามันไม่ใช่แค่ส่วนของเป้ยแล้ว เป้ยคิดว่าคุณป๊อป ก็แฮปปี้กับส่วนตรงนี้ เราสองคนแฮปปี้กับสถานะแบบนี้กันแล้ว เรื่องคืนดีมันไม่ใช่แล้ว เราแฮปปี้กันอย่างนี้และลูกๆ ก็เข้าใจใน ณ สถานะนี้ แล้วก็มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้มากๆ แล้วค่ะ”
ช่วงปีใหม่นี้มีชวนเพื่อนๆ ชาวแก๊งไปไหนไหม?
“ช่วงเดือนธันวาคมจะมีไปสกีก็จะมีคุณป๊อปไปด้วย ก็ยังจะมีคุณป๊อปอยู่ในทริปจนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเราจองตั๋วเครื่องบินข้ามปี ฉะนั้นเขาก็ยังต้องไปกับเราอยู่ ก็จะไปเจอเพื่อนๆ แต่ก็จะมีคุณป๊อปไปด้วย”
แน่นอนว่าการออกทริปครั้งนี้จะมีภาพออกมาคนก็จะเข้ามาคอมเมนต์แน่นอนว่า อยากให้คืนดี?
“คือทุกคนก็หวังว่าอยากเห็นอะไรที่มันดีๆ เป้ยเชื่อว่า นี่คือคอมเมนต์ที่ดีๆ ที่เรารับรู้ได้ว่าคนรักและอยากเห็นเรามีความสุข แต่เป้ยจะบอกว่าทุกวันนี้เป้ยก็มีความสุขดีอยู่แล้ว (ยิ้ม)”
มีเพจดังบอกว่ามีสามีนางร้ายควงสาวไปเที่ยวญี่ปุ่น เขาเล็งว่าเป็นแม่หรือเปล่า?
“อันนี้ไม่รู้ชัวร์หรือเปล่านะ แต่พอดีก็มีคนส่งรูปมาให้เป้ยดูเหมือนกัน เราก็เอ้าเหรอ คุณป๊อปไปญี่ปุ่นหรอ ก็มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณป๊อปที่จะเดินทางไปทำงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ เอาเป็นว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจ เป้ยก็ไม่ได้รู้ดีเทลอะไรมากๆ แล้วก็ยังไม่ได้คุย แต่ว่ามีคนส่งรูปมาให้ดู”
แม่เบื่อไหมกับยังวนเวียนอยู่แต่ในนี้?
“ก็ดีค่ะ ก็ได้รับรู้จากคนอื่นว่า อ๋อ ตอนนี้คุณป๊อปอยู่ไหน”
กลายเป็นว่าเขาไปไหน เราอาจจะไม่ได้ถามเขา แต่เรารู้เอง?
“ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมาก็จะมีผู้หวังดีที่เป็นห่วงเรา หรือที่เป็นแฟนคลับเราที่คอยจะอัพเดทว่าเจอคุณป๊อปตรงนู้นตรงนี้ ส่งรูปมาให้อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”
เราอยากจะปิดจบที่เราจะต้องมารับรู้เรื่องของคนใกล้ๆ ตัว?
“สำหรับอันนี้คือเป้ยมองว่า ถ้าเป้ยอยู่ในช่วงที่ทำใจไม่ได้ เป้ยอาจจะไม่อยากรับรู้ไม่อยากเห็นเกี่ยวอะไรกับเขา แต่พอดีว่าความรู้สึกของเป้ยเปลี่ยนไปแล้ว เป้ยไม่ได้มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉะนั้นการที่เขาส่งรูปมา เป้ยก็แค่ อ๋อ เห็นแล้วก็จบเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความรู้สึกว่าไม่อยากเห็นนะ ไม่อยากมองนะ หรือว่าจะทำใจไม่ได้นะ คือเป้ยไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เป้ยก็แค่ อ๋อ ใช้ชีวิตอย่างนี้เหรอ แฮปปี้ดีนะ แค่นั้นเองไม่มีอะไรเลย”
ซีรีส์แม่หยัวจบอย่างสวยงามมาก?
ขอบคุณมากๆ ค่ะ เป้ยดีใจและภูมิใจมากๆ ที่ได้มีส่วนร่วมในซีรีส์เรื่องแม่หยัว อย่างที่เป้ยเคยให้สัมภาษณ์ ต่อให้เป้ยไม่ได้เล่นในเรื่องๆ นี้ด้วย ก็จะเป็นคนดูคนหนึ่งที่คอยติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะเห็นจากฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวนักแสดงเองก็ตาม เสื้อผ้าหน้าผม องค์ประกอบต่างๆ รวมไปถึงผู้กำกับ ซึ่งเป็นผู้กำกับอันดับ 1 ในใจเป้ยอยู่แล้ว เป้ยมองว่าพลาดไม่ได้เลย ฉะนั้นพอเป้ยได้มีโอกาสได้ร่วมงาน แล้วเมื่อวานเป็นตอนจบของซีรีส์แม่หยัวแล้วฟีดแบ๊กดีมากๆ ทุกคนคอมเมนต์แล้วแชร์โพสต์ต่างๆ ดีมากๆ เราเป็นหนึ่งในตัวแทนนักแสดงเราก็ต้องขอขอบคุณมากๆ ดีใจที่ทุกคนได้เห็นผลงานของคนไทยที่ดีแบบนี้ อยากจะบอกว่าทุกคนตั้งใจมาก”
ถือว่าหายเหนื่อยไหมเพราะว่าการถ่ายทำก็หนักหน่วงสำหรับซีรีส์รื่องนี้?
“คือพาร์ตของเป้ยอาจจะไม่ได้หนักมาก แต่เป้ยเห็นนักแสดงทุกคนมีความตั้งใจและมีความเต็มที่ และพี่สันต์ (ผู้กำกับ) เครียดมาก แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยในแต่ละฉาก แล้วทุกคนรวมไปถึงทีมงาน เสื้อผ้าหน้าผม อะไรก็ตามแต่ ทุกคนเต็มที่มากพอเห็นฟีดแบ๊กดีๆ เป้ยก็รู้สึกว่าเราก็ปลื้ม รู้สึกหายเหนื่อย”