หวนคืนจอเงินในรอบเกือบ 3 ปี สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘โอ้’ มาริโอ้ เมาเร่อ โดยกระโดดมารับบทไรเดอร์ในภาพยนตร์สยองฮา “ไรเดอร์” (Riders) ของค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และแฮปปี้ แมน สตูดิโอ
โดยวันนี้ หนุ่มโอ้ได้เปิดใจถึงการรับบทบาทใหม่ที่ท้าทาย พร้อมเหตุผลที่กลับมารับงานหนังอีกครั้ง รวมถึงความรู้สึกที่ได้เห็นวงการภาพยนตร์ไทยกลับมาเฟื่องฟู
• รู้สึกอย่างไรกับการกลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้ง?
โอ้ – “ดีใจครับ ได้กลับมาเล่นภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่งในรอบ 2-3 ปี ครั้งนี้กลับมาในเรื่อง ไรเดอร์ เล่นกับน้องฟรีน (สโรชา จันทร์กิมฮะ), เซียนหรั่ง (โน่-ภูวเนตร สีชมภู) และพี่ดีเจอาร์ต (มารุต ชื่นชมบูรณ์) จริงๆ ผมอยากร่วมงานกับพี่กังฟู (นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ) ผู้กำกับฯ เพราะเคยทำงานกับพี่เขาตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรก รักแห่งสยาม ตอนนั้นพี่เขาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับฯ พอพี่เขาเป็นผู้กำกับฯมีโปรเจ็กต์นี้เขาก็ชวน รู้สึกน่าสนใจดี เพราะในเรื่องได้เป็นไรเดอร์ด้วย ซึ่งทุกวันนี้ไรเดอร์เป็นอาชีพที่เราเห็นเต็มไปหมด แล้วเป็นหนึ่งในอาชีพที่เจอผีมากที่สุดจากที่เขาสำรวจมา”
• บทบาทและคาแร็กเตอร์ในเรื่อง?
โอ้ – “ผมรับบท นัท มีอาชีพเป็นไรเดอร์ มีเซนส์เห็นผี ชินกับการเห็นผี ซึ่งจริงๆ กลัว แต่ไม่ถึงกับกลัวจนทำอะไรไม่ได้ นัทจะคอยเป็นสื่อกลางระหว่างผีกับเพื่อน ตอนกลางวันส่งของ ส่งอาหาร ส่งทุกอย่าง แต่ตกกลางคืนพอไปส่งของก็มักเห็นผี นัทก็จะคอยมาร์กจุดพิกัดเป็นรูปกะโหลกไขว้ไว้เพื่อคอยบอกเพื่อนว่าตรงนี้อย่าไป หรือผ่านตรงนี้ผีดุ
ตัวนัทไม่ได้มีแบ๊กกราวด์อะไรซับซ้อน เป็นคนไม่เคยมีความรัก พอมีความรักก็เลยเต็มที่ นัทจะมีเพื่อนซี้ไรเดอร์ แต่ละคนจะมีคาแร็กเตอร์ต่างกัน อย่าง น้าไก่ (ดีเจอาร์ต) เป็นกูรูเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชอบเรื่องเกี่ยวกับพระ สะสมพระ ของขลัง ชอบสัก แล้วแกมีสิ่งค้างคาใจ เพราะตอนเด็ก พระเคยทักว่าจะตายเพราะผี ก็เลยไม่ค่อยอยากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสยอง
ส่วน เสือยอด (เซียนหรั่ง) เป็นคนชอบ Live เรื่องผี มีช่องในโซเชี่ยล ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับผี ใครเล่าให้ฟังหรือไปเจอดีอะไรมาก็จะเอามาเล่าให้แฟนๆ ในช่องฟัง แล้วชอบหาเรื่องเล่าด้วยการไปในโลเกชั่นที่เราปักหมุดไว้ว่ามันน่ากลัว ผีดุ แต่ก็ไปเพื่อจะได้มีเรื่องมาไลฟ์ จนไปเจอดี”
• ปกติโอ้เป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์ แต่การมารับบทไรเดอร์ต้องทำการบ้านเพิ่มเติมตรงส่วนไหนไหม?
โอ้ – “มีครับ ทั้งเรื่องการเทสต์อุปกรณ์ต่างๆ เวลาขี่ เวลาใส่มือถือในการดูแผนที่ มีหูฟัง มีเคสที่จับใส่มือถือคือเป็นไอเท็มที่ห้ามขาด แจ๊กเกตที่ขาดไม่ได้ และอีกหลายอย่าง แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีแสงสว่างขนาดนี้ในการถ่ายทำ ขี่รถไปกับพี่อาร์ตและโน่ ตามเยาวราช สะพานพุทธ คนบนถนนนึกว่าเป็นเรือไดหมึก แต่มันคือมอเตอร์ไซค์แต่งไฟ สีสันแสบตา รถที่ผมขับแสงสีเขียวโดดเด่นมากและสนุกมาก แล้วตัวละครนี้ยังต้องใส่รองเท้าข้างละสีด้วย ทีมคอสตูมบอกว่ามันเป็นสไตล์ของนัทครับ”
• ร่วมงานกับทีมนักแสดงในเรื่องนี้ เป็นยังไงบ้าง?
โอ้ – “เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับพี่โน่ เป็นคนมีความสามารถ สนุกสนาน ได้เรียนรู้อะไรจากพี่โน่เยอะเลย ในด้านอาหารอีสาน เพลงอีสาน เขาคอยให้คำปรึกษา ผมกับพี่โน่มีอะไรคล้ายกัน อย่างเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ก็จะคุยกันได้นาน แล้วผมชอบดูช่องของพี่เขา
ส่วน พี่อาร์ต ผมรู้จักอยู่แล้ว เคยเจอกันบ้างตามงานข้างนอก แต่ไม่เคยร่วมงานจริงจังแบบนี้ พี่อาร์ตเป็นคนเฮฮา ทำงานด้วยแล้วสนุก มีความสุขที่ได้เจอทุกครั้งที่ได้มากอง รู้สึกว่าเขามีเอ็นเนอร์จี้ที่ดี มีพลังบวก ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานพวกเราสามคนเหมือนต่อกันติดไวมาก ขนาดตอนพักกอง เราจะจับกลุ่มกันเพื่อหาเรื่องคุย จะได้ไม่ง่วง ชวนคุยไปเรื่อย เพราะมีความชอบอะไรคล้ายกัน
น้องฟรีน ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ ได้ทำงานร่วมกัน ก่อนหน้ามาถ่ายทำ เราได้เวิร์กช็อป น้องเป็นคนตั้งใจทำงานมาก มีความนักสู้อยู่ในตัว เพราะเราถ่ายหนังผีจะถ่ายกลางคืนเยอะ ดึกขนาดไหนก็ยังสดใส แล้วมีซีนอารมณ์ที่ต้องเล่นด้วยกัน แต่อารมณ์ของผมยังไม่มา เขาก็จะไม่ทิ้งเรา จะยืนส่งอารมณ์ต่อให้ผมตลอด ซึ่งประทับใจ น้องน่ารักมากครับ”
• หลายคนบอกว่าเคมีเรากับน้องฟรีนดีมาก?
โอ้ – “น้องฟรีนช่วยผมได้มาก ขนาดเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกัน แต่มีหลายๆ ซีนที่เล่นด้วยกันแล้วประทับใจ ตัวน้องเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว แต่ตอนเล่นรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีก แล้วมีการคอนเน็กต์กันได้ด้วยระหว่างตัวละคร 2 ตัว อีกอย่างน้องเป็นคนค่อนข้างเปิด พอคอนเน็กต์กันแป๊บเดียวมันก็คลิกกันแล้ว เรามีครูที่ช่วยสอนด้วยทำให้เราเจอกันได้ง่าย เรียนรู้กันได้เร็ว”
• แต่ละโลเกชั่นที่ไปถ่ายทำ ใช้สถานที่จริงหมดเลย มีความน่ากลัวยังไงบ้าง?
โอ้ – “โลเกชั่นที่จำแม่นคือที่โรงพยาบาลร้างกลางเมือง เราต้องทำงานกันหลายจุดของโรงพยาบาล แต่ด้วยเป็นโรงพยาบาลจริง ร้างจริง ก็จะมีฝุ่นเยอะ มีความหลอน มีกลิ่นของโรงพยาบาลอบอวล ทุกอย่างสมจริงแบบไม่ต้องเซ็ต ยิ่งในห้องเก็บศพ ใช่เลย แอบหลอนอยู่ แวบแรกคือเอ๊ะ…ของจริงรึเปล่านะ เพราะรู้สึกว่ามันใช่ ตอนถ่ายกันหน้าเซ็ตคนเยอะยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนเดินไปห้องน้ำคนเดียว มุมไปห้องน้ำนี่เงียบกริบมาก แล้วมีพวกพี่ๆ ที่เขาต้องแต่งเป็นผีในเรื่องด้วย ไม่อยากบังเอิญเจอกันตามมุมเลยครับ มันแยกไม่ออก
แล้วไม่ใช่แค่โรงพยาบาลที่ร้างจริง บ้านที่ไปถ่ายอีกที่ก็ร้างจริง อันนั้นทั้งฝุ่น ทั้งสโมก ทั้งมืด ข้าวของเครื่องใช้บางอย่างยังอยู่ ในเรื่องจะมีลูกค้าแปลกๆ สั่งของมาส่งที่บ้านร้าง แล้วให้ไรเดอร์เข้าไปจุดธูปเรียกวิญญาณมารับอาหารไหว้ด้วย แล้วนัทก็จะเห็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น ก็จะเป็นซีนที่ยากด้วย หลอนด้วย ต้องต่อสู้กับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากพี่โน่ด้วย ฉากนั้นหูรูดแกน่าจะพังเลยไม่สามารถกลั้นตดไว้ได้ แล้วต้องมีคลานไปกับพื้นฝุ่นเยอะๆ อากาศก็น้อยมาก ถ่ายตอนกลางวันว่าหลอนแล้ว ถ่ายตอนกลางคืนหลอนหนักเลย
และที่ วัด ที่เราไปถ่ายอีกที่หนึ่ง ถึงจะไม่ใช่วัดร้าง แต่เป็นวัดโบราณเก่าแก่ ความหลอนอยู่ตรงที่พี่กังฟูให้เราไปลุยตรงเจดีย์บรรจุกระดูกของทางวัดของจริงเลยครับ ตรงเมรุก็ด้วย มีฉากที่ต้องวิ่งหลบไปหลังเมรุ ผมวิ่งไปข้างหลังไม่มีทีมงานรอรับเลย แต่เรารู้ว่าพี่ทีมไฟอยู่แถวนั้น ถามว่ากลัวไหม กลัวครึ่งหนึ่งครับ แต่ก็ไม่เคยลบหลู่เลยสักครั้ง พวกพี่ทีมงานไหว้สถานที่กันก่อนถ่ายทำตลอด ทุกอย่างเลยราบรื่น”
• ของปราบเซียนสุดในเรื่องนี้คืออะไร?
โอ้ – “น่าจะเป็นเสื้อไรเดอร์สีเหลืองที่ใส่ในเรื่อง เพราะมันหนาแล้วต้องใส่ตลอด อากาศบางวันอบอ้าว บางวันเจอที่แคบสุดๆ มีทั้งสโมก ทั้งฝุ่น ทั้งแอ๊กชั่น แต่ยังคงต้องให้เห็นความเป็นไรเดอร์ บางทีลืมความหลอนของบรรยากาศไปเลยครับ”
• ช่วงนี้กระแสหนังไทยกลับมาเฟื่องฟู คาดหวังว่าอานิสงส์มาถึงหนังของเราด้วยไหม?
โอ้ – “ผมดีใจนะครับไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่องไหนก็ตาม ขอให้เป็นหนังไทยแล้วประสบความสำเร็จ คนไทยกลับมาดู อยากให้คนไทยสนับสนุนหนังไทยกันเองก่อน มาดูหนังไทยกันเยอะๆ ยิ่งช่วงนี้กระแสกลับมาแล้วก็อยากให้กลับมาอีกเรื่อยๆ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่รออยู่ หนึ่งในนั้นคือ ไรเดอร์ (ยิ้ม) ครับ”
• นอกจากเล่นหนังเล่นละคร เรายังเป็นยูทูบเบอร์ทำรายการ “OH LUNLA (โอ้ลั้นลา)”?
โอ้ – “ครับ โอ้ลั้นลา เป็นรายการหนึ่งใน YouTube เราพัฒนาอยู่ตลอด ถึงงานผมจะแน่นแต่ก็ยังหาเวลาไปทำเพราะเป็นสิ่งที่ชอบ หลังจากนี้คงได้เห็นอะไรมากขึ้น อย่างล่าสุดก็มี โอ้ลั้นลา Collector รู้สึกว่าตัวเองมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นที่เขามาเห็นเราในด้านการเป็น Collector เราชอบสะสมและได้ความรู้ในการสะสมด้วย แล้วก็อยากจะไปรู้แพสชั่นของแต่ละคนด้วย”
• แต่เรื่องการท่องเที่ยวก็ยังมีให้เห็นอยู่?
โอ้ – “มีเรื่อยๆ ครับ ล่าสุดเพิ่งไปจีนมา ขี่มอเตอร์ไซค์จากเมืองไทยไปทิเบต ทริปนี้เจ๋งมาก ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างเดียวทั้งหมด 7 วัน มันเป็นความสุข ที่สำคัญเราเปิดโลกด้วย ไม่คิดว่าวันนึงตัวเองจะมีโอกาสขี่มอเตอร์ไซค์จากไทยไปเมืองจีนได้ ทริปนี้ประทับใจทุกอย่างเลยครับ”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล