“ภูมิธรรม” เตรียมสั่งตัดไฟ-น้ำมัน-สัญญาณเน็ต ชายแดนไทย-กัมพูชา เข้มซีลชายแดน สร้างรั้วยาว 55 กิโลเมตร สกัดแก๊งคอลฯ – อาชญากรรมข้ามชาติ
วันที่ 12 ก.พ. 2568 ที่จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจมาตรการดำเนินงานภายใต้ยุทธการอรัญ 68 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ใน 4 จุด
โดยจุดแรกที่ไปที่จุดบูรณาการร่วม ทหาร ปกครอง ตำรวจ (จต.อ. 25 ) ต.ท่าข้าม ตรวจการใช้ยุทโธปกรณ์และโดรน เพื่อช่วยลาดตระเวนและตรวจสิ่งผิดปกติของกองกำลังบูรพา รวมถึงรถปฏิบัติการสื่อสารทางยุทธวิธีที่จะแสดงผลทางจอทีวีแบบเรียลไทม์
จากนั้น นายภูมิธรรม เดินทางต่อตรวจเสาส่งสัญญาณผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ที่บ้านโคกสะแบง โดยจุดนี้มีการลดความสูงของเสาและออกแบบเสาใหม่ ไม่ให้หันไปทางฝั่งกัมพูชา จากเดิมที่หันไปมีระยะห่างกับกัมพูชา ประมาณ 300 เมตร ซึ่งในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่บริษัททรู กำลังปีนเสาตัดสัญญาณและลดระดับการส่งสัญญาณ
ต่อมา 14.15 น. เดินทางไปจุดที่ตลาดเบ็ญจวรรณ ต.ป่าไร่ ติดตามการดำเนินงาน กสทช. ในการใช้ชุดเครื่องมือตรวจสอบสถานีวิทยุโทรคมนาคม สำหรับตรวจสอบสถานีโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อดูเสาสัญญาณผู้ให้บริการ โดยดูตัววัดสัญญาณอินเตอร์ที่ได้รับแจ้งเตือนจากฝ่ายความมั่นคงว่าพบความผิดปกติ โดยสามารถบล็อกไอพีที่ใช้ได้ทันที
จากนั้นเดินทางไปที่ตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และรับฟังรายงานสถานการณ์การเดินทางเข้า-ออกของบุคคล โดยผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการกองกำลังบูรพา รายงานว่า ขณะนี้เราห้ามคนเข้าได้
แต่ไม่สามารถห้ามคนเดินทางออกได้ หากเดินทางไปอย่างถูกต้อง และไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะถูกหลอกหรือไม่ จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา โดยนายภูมิธรรมกำชับให้เข้มงวดในเรื่องการเดินทางเข้าออก
จากนั้นดูจุดที่เจ้าหน้าที่ตัดสายเคเบิ้ลที่ลักลอบส่งข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา เบื้องต้นได้ตัดสายแล้ว โดยนายภูมิธรรมโชว์สายเคเบิ้ลที่ถูกตัดแล้ว และกล่าวว่า สายเคเบิ้ลใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเจ้าของให้ตัดเลย เบื่องต้นตัดไปแล้ว 3 เส้น จาก 32 เส้น เหลือ 29 เส้น หากตรวจไปเจอที่ไหนไม่ถูกต้องก็ตัดทันที
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่วันนี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีมติออกไป ทั้งการตัดไฟและอินเตอร์เน็ต แต่ละจุดที่ไปดูห่างจากชายแดนไม่มาก ส่วนเสาสัญญาณได้ลดระดับความสูงลงและหันเสาออกจากจุดชายแดน
หากไม่ลดความสูงลงสัญญาณจะข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้ และตามแนวชายแดนยังไม่ต้องกังวลใจ ยังใช้สัญญาณได้ เพราะเราคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนด้วย ส่วนสัญญาณที่ส่งออกไปข้างนอกเราสั่งตัดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ขยายการกระทำผิด
ส่วนจุดผ่านแดนบ้านคลองลึกใกล้ชายแดน มีแค่กำแพงรั้วที่สูงไม่มากขวางอยู่ หันไปดูก็จะเป็นตึก 25 ชั้น ที่ปรากฏออกมาตามสื่อฯ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เป็นเป้าหมาย ขณะที่สายสัญญาณที่เหลือ รอให้เจ้าของมาแสดงตัว เพื่อติดสติกเกอร์
อันไหนบอกไม่ได้ว่าเป็นของใครจะตัดทิ้ง และให้ กสทช.ไปพิจารณาเรื่องสาย เสาซิม พร้อมลดกำลังส่งสัญญาณให้วิ่งถี่ขึ้น เพื่อดูว่ามีอะไรรั่วไหลหรือไม่ จะได้ดำเนินการ สายที่ต่อไปทางกัมพูชาหากพบว่านำไปใช้ในพื้นที่กระทำผิด ต้องสาวไปถึงต้นตอว่าเจ้าของสายเป็นใคร หากไม่ดำเนินการตามคำสั่งของรัฐบาล ถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ต้องเรียกมาคุยกัน
ทั้งนี้ จากการหารือกับบริษัทผู้ให้บริการ เช่น เอไอเอสได้พูดคุยไปแล้ว และวันนี้ส่งคนมาดำเนินการ ส่วนรายอื่นต้องไปคุย โดยพบว่ามี 2 เจ้าใหญ่ และคงต้องให้ความร่วมมือ เพราะเป็นปัญหาความมั่นคงในประเทศ หากรู้ว่ามีบริษัทที่ขายสัญญาณต่อไปในพื้นที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย เราต้องถอนใบอนุญาตหรืออาจไปถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด ต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น
“ที่สระแก้ว ต้องเน้นเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไฟฟ้าอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจากกัมพูชาก็มีไฟฟ้าที่ผลิตเองส่วนหนึ่ง การจัดการต้องดูแต่ละพื้นที่ไป ในขณะที่ตลาด รวมถึงพญาตองซูที่ผมจะเดินทางไป ตรงนั้นไม่มีไฟฟ้า จึงเป็นเงื่อนไขของเราที่จะทำให้เห็นผล และเขาก็ตื่นตัวมาก พยายามสกัดกั้น ผลักดันคนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ทำผิดกฎหมาย” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทางเมียนมาระบุจะส่งคนที่ถูกหลอกไปให้ไทย 20 รอบ รอบละ 500 คน เราจึงบอกว่า ขอให้ประเทศต้นทางของคนที่ถูกหลอกไประบุมาก่อน เพราะเราไม่อยากมาสร้างค่ายอพยพที่ไทย
ขณะนี้ทางจีนมีรัฐมนตรีเดินทางไปที่เนปีดอ ไปคุยกับรัฐมนตรีมหาดไทยเมียนมา เมื่อกลับเข้ามาได้นัดพูดคุยกับตน เพื่อหารือถึงมาตรการร่วมกัน ยืนยันว่าทั้งหมดเราต้องคำนึงถึงอธิปไตยของไทย ส่วนความร่วมมือเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่จะร่วมกัน
เมื่อถามว่าจะขยายมาตรการเข้มข้นที่ทำกับเมียนมา ใช้ในฝั่งกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า บางอย่างเหมือนได้ บางอย่างไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องการตัดไฟ ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค ซึ่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตมีส่วนสำคัญมากกว่า เพราะแนวชายแดนติดกัน บางครั้งสามารถกระโดดข้ามกันมาได้ ที่เสนอขอทำรั้วให้สูงขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และจะนำไปพิจารณา
ไม่ต้องกลัวหากมีการทำรั้ว จะไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน เราทำในอธิปไตยของเรา พื้นที่ทับซ้อนต้องไว้ทีหลังเพราะมีปัญหาอยู่ จึงย้ำมาตลอดว่าการจัดการปัญหาไม่ง่าย เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อถามถึงการสนับสนุนอุปกรณ์ทางเทคนิคแก่หน่วยงานในการซีลชายแดน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการขอเสนออุปกรณ์เทคนิคของกำลังพลบางส่วน โดยหลักการรัฐบาลเรามีแนวปฏิบัติภารกิจประสบความสำเร็จ ต้องไปดูตามความจำเป็น บางส่วนอาจให้ได้ บางส่วนอาจจะต้องใช้งบประมาณอาจจะใช้งบกลาง เช่น การทำรั้วตามแนวชายแดน 55 กิโลเมตร รั้วที่จะทำมีลักษณะแบบไหน และสามารถป้องกันปัญหาใดได้บ้าง
ชายแดนเรามีระยะทางยาว จะใช้กำลังพลอาจจะไม่เพียงพอ แทนที่จะเพิ่มกำลังพล อาจจะเปลี่ยนเป็นการเพิ่มโดรน เพื่อใช้ในการตรวจการแทนกำลังพล
เมื่อถามว่าการหันและลดระดับเสาสัญญาณโทรศัพท์ จะลดการส่งสัญญาณไปทางประเทศกัมพูชาได้มากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ช่วยได้ การหันเสาสัญญาณของ กสทช. ช่วยเรื่องระดับการปรับความไกล ซึ่งก็จะทำให้สัญญาณทางเราไกลมากขึ้น และจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการแก้ไข ถือเป็นเรื่องทางเทคนิค ซึ่งทางหน่วยที่รับผิดชอบจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการเเก้ไข โดยมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องมีการประสานงานกัน
ส่วนการสร้างกำแพงเเนวชายแดน 55 กิโลเมตร ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องไปดูรายละเอียด เพราะมีแบบอย่างต่างประเทศสร้างกำแพงชายแดน เช่น สหรัฐอเมริกา เราต้องไปดูว่าการสร้างกำแพงของประเทศไทยจะป้องกันปัญหาเรื่องอะไร และจะช่วยได้มากน้อยเพียงใด โดยขออนุญาตยังไม่ตอบ เพราะต้องไปดูเรื่องทางเทคนิคเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงปูน ลวดหนาม หรือตาข่าย เป็นต้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้โทรเข้ามาหารือกัน ในส่วนของประเทศกัมพูชาไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราจะดำเนินการเพียงพื้นที่ที่เกิดปัญหา โดยรัฐบาลจะดำเนินการในพื้นที่ 5 จุด ที่มีปัญหาของบัญชีม้า ยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นภัยคุกคามแบบใหม่ และการซีลชายแดน 51 อำเภอ 14 จังหวัด คือการทำกำแพงสองชั้น และครอบคลุมทุกปัญหา
ขณะที่ พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุม สมช. มีมติให้ระงับการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และสัญญาณโทรคมนาคมใน 5 จุดสำคัญของฝั่งเมียนมา เพื่อสกัดเส้นทางอาชญากรรม ล่าสุดรัฐบาลเตรียมขยายมาตรการนี้ไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, พื้นที่ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์, พื้นที่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ จ.ตราด-เกาะกง