วันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ.2568 น้อมรำลึกครบรอบ 8 ปี มรณกาล “หลวงปู่เปรื่อง ฐานังกโร” หรือ “พระวินัยวงศาจารย์” อดีตเจ้าอาวาสวัดสันติวัฒนา ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหล่มสัก-เขาค้อ (ธรรมยุต) พระเถระนักปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ที่คนทั่วไปต่างเลื่อมใสศรัทธา เกิดในสกุลรูปน้อย เมื่อวันพุธที่ 30 มี.ค.2474 ที่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 2 ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ บิดา-มารดาชื่อ นายเรือง และ นางน้อย รูปน้อย

ในช่วงวัยเยาว์ศึกษาที่โรงเรียนบ้านหนองบัว จ.เพชรบูรณ์ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ช่วยครอบครัวทำไร่ ทำนา และทำสวน

ย่างเข้าวัยหนุ่มฉกรรจ์มีจิตใจฝักใฝ่และศรัทธาหลักธรรมคำสอน ประกอบกับที่ครอบครัวได้เข้าวัดฟังธรรมและรักษาศีลเป็นประจำ จึงได้ขออนุญาตบุพการีบวช

อริยะโลกที่ 6

ต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดศรีบุญเรือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2495 โดยมี พระครูสุธรรมคณี วัดสามัคคีวัฒนา ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่ทำวัตรปฏิบัติพระอุปัชฌาย์ และศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก จึงได้รับหน้าที่ให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแก่พระภิกษุ-สามเณรภายในวัด และทำหน้าที่เป็นผู้สวดปาติโมกข์ ทุกปักขคณนาตลอดทั้งปี

พ.ศ.2510 เมื่อญาติโยม อุบาสก และอุบาสิกา ร่วมกันสร้างวัดขึ้นใหม่ คือ วัดสันติวัฒนา ที่บ้านสักหลง ชาวบ้านได้นิมนต์ให้มาอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

พ.ศ.2514 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ (ธรรมยุต) พ.ศ.2518 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะอำเภอหล่มเก่า-อำเภอน้ำหนาว (ธรรมยุต) จ.เพชรบูรณ์

พ.ศ.2541 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอหล่มสัก และอำเภอเขาค้อ (ธรรมยุต) จ.เพชรบูรณ์

พ.ศ.2554 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหล่มสัก-เขาค้อ (ธรรมยุต)

เนื่องจากเป็นพระที่มีความรอบรู้ในเรื่องนวกรรม จึงชักชวนชาวตำบลสักหลงก่อสร้างศาลาการเปรียญ อุโบสถ กุฏิกัมมัฏฐาน ปรับภูมิทัศน์ภายในวัดให้มีความร่มรื่นด้วยการปลูกต้นไม้และนำพันธุ์ไม้หายากมาปลูก ทำให้ภายในวัดมีความร่มรื่นเย็นสบาย จนได้รับเกียรติคุณจากกรมการศาสนาให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างติดต่อกันหลายปี

เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาบวชได้ศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรม จะกำหนดให้พระภิกษุ-สามเณรต้องลงอุโบสถ ทำวัตรเช้า-เย็น ทุกวัน และฟังพระสวดปาติโมกข์ตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ ยังอบรมให้พระภิกษุ-สามเณรยึดมั่นปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์และกฎมหาเถรสมาคม ฝึกปฏิบัติตามหลักธุดงควัตร ยึดหลักสันโดษ มักน้อยในปัจจัย 4 ไม่ยึดติดในอติเรกลาภ จึงทำให้พระภิกษุ-สามเณรที่จำพรรษาวัดแห่งนี้ไม่เคยมีอธิกรณ์ใดๆ ให้เกิดความเสื่อมเสีย

ส่งเสริมให้พระภิกษุ-สามเณรภายในวัดได้รับการศึกษาด้านพระปริยัติธรรม แต่ละปีจึงมีพระภิกษุ-สามเณรสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ปีละหลายรูป

รวมทั้งยังจัดส่งพระภิกษุ-สามเณรในวัดไปศึกษาด้านกัมมัฏฐานที่สำนักวัดป่าต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระวินัยวงศาจารย์

เป็นพระสายปฏิบัติที่เคร่งครัด ได้ให้การศึกษาอบรมญาติโยมและประชาชนทั่วไปด้วยการเน้นเรื่องของการปฏิบัติตน การฝึกทำสมาธิ เพื่อสร้างฐานทางสติให้มีความมั่นคง ไม่วอกแวก และมีสติ

ภายในวัดจึงมีกุฏิกัมมัฏฐานไว้เพื่อให้ผู้ที่ชอบความสงบเข้ามาปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ และปฏิบัติกัมมัฏฐาน ได้ทุกวัน แต่ละวันจึงมีญาติโยมที่เลื่อมใสเดินทางมาเคารพกราบไหว้ พร้อมกับทำนุบำรุงศาสนสถานและถาวรวัตถุอย่างพร้อมสรรพ

อย่างไรก็ตาม สังขารร่วงโรยไปตามกาลเวลา อายุเข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่งหลวงปู่มีอาการอาพาธ ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ญาติโยมนำไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้ง

เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2562 อาการมีแต่ทรงกับทรุด กระทั่งละสังขารอย่างสงบที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน