โอละพ่อ! หนุ่มแจ้งโดนชายหญิงขี่จยย.ประกบ ชิงทอง 2 บาท ที่แท้ป่วยซึมเศร้า พ่อรับลูกป่วยจิตวิตก กลับบ้านรับยาทุก 3 เดือน ขอโทษทำเข้าใจผิด
ชิงทอง 2 บาท / จากกรณีหนุ่มวัย 41 ปีชาวด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร รายหนึ่ง แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า โดนวัยรุ่นคู่หนุ่มสาวขับรถจักรยานยนต์ตามประกบพร้อมกับด่าทอท้าทายปะทะคารมกันขณะนั่งอยู่หลังกระบะ ซึ่งมีพ่อเป็นคนขับและแม่นั่งอยู่ด้านหน้า แล้วถูกกระชากลงจากรถ และอ้างว่าสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหายไป เหตุเมื่อเวลา 21.35 น. วันที่ 29 ก.พ.ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 มี.ค. ที่ สภ.สวี จ.ชุมพร น.ส.ปิยพร นัทรี อายุ 24 ปี พร้อมแฟนหนุ่มคือนายอิทธิพัทธ์ องอาจ อายุ 25 ปี ชาวต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร หลังทั้ง 2 ถูกกล่าวหาว่าชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำแดง ทะเบียน 1 กญ 2779 ชุมพร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี และพ.ต.ท.มานะ บุญตติยานุกูล สว.(สอบสวน) สภ.สวี พร้อมพ่อของชายวัย 41 ปี (ผู้แจ้ง) เพื่อชี้แจงปรับความเข้าใจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เป็นการชิงทรัพย์ตามที่ให้ข่าว แต่เป็นการขับรถเฉี่ยวชนกันมา ก่อนด้านฝ่ายพ่อชายผู้แจ้งยอมรับว่า ลูกชายมีป่วยซึมเศร้าและอาการจิตวิตก
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
น.ส.ปิยพร เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คืนเกิดเหตุขี่รถจยย.มารับแฟนที่สนามฟุตบอลหน้าเทศบาลฯ หลังจากนั้นขับรถออกมาจะแวะกินหมูกระทะแต่ร้านปิด และขับวนมาหน้าโรงเรียนอนุบาลนาโพธิ์
จังหวะนั้นก็ขับอยู่ในเลนดีๆ รถกระบะขับมาเฉี่ยวที่กระจกข้างซ้าย จึงให้แฟนขับรถตามประกบ เพื่อบอกว่าขับรถเฉี่ยว ไม่ต้องการอะไร แค่จะบอกอย่างเดียว แต่คนนั่งหลังรถกระบะคือเหมือนเขาเดือดร้อนและตะโกนด่าคำว่า “ไอ้…หน้า..” และลุกขึ้นจับขอบกระบะทำท่าถีบ จนไปถึงบริเวณแยกหน้าสถานีรถไฟสวี เขาถุยน้ำลายใส่มาก่อนแล้วแฟนก็ถุยน้ำลายกลับถูกเขาเต็มๆ แต่เขาไม่ยอม
จังหวะนั้นเขาจะกระโดดลงจากรถมาเอาเรื่อง แต่บังเอิญลุงคนขับชลอรถทำให้เขาพลัดตกจากรถกระบะลงมา โดยมืออีกข้างจับรถไว้ตัวเลยลากไปกับรถ พอได้จังหวะจึงวิ่งตามรถจยย.ของตน เพื่อเอาเรื่อง แต่ตนไม่กล้าจอดรถ เพราะกลัวมีเรื่องใหญ่ เนื่องจากดูแล้วเขาไม่ยอมเลย
ทางตนเองไม่เข้าใจให้ข่าวว่า ตนไปชิงสร้อยเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตวิตก พ่อของหนุ่มป่วยออกมาชี้แจงพร้อมขอโทษแล้ว ตนและแฟนจึงไม่ติดใจเอาความ
ด้านพ่อหนุ่มป่วย กล่าวว่า ขับรถกระบะออกมาส่งลูกที่สถานีรถไฟสวี พอจอดรถเห็นลูกวิ่งไล่รถ โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ก็ตะโกนถามว่าเกิดอะไร ส่วนตนก็ยังงงๆ เรื่องที่ไปเฉี่ยวชนกับรถจยย.นั้นอาจจะเป็นจริง แต่ตอนนั้นอาจจะไม่เห็น ก็เลยขับรถมาเรื่อยๆ จนมารู้ความจริง รับว่าลูกชายกลับบ้าน 3 เดือนครั้ง เพื่อรับยาโรคซึมเศร้า และอาการจิตวิตก ส่วนเรื่องที่อ้างว่าทองหายนั้น ต้องไปเค้นสอบถามอีกครั้งว่า สร้อยคอทองนั้นตกหายหรือวางลืมไว้ที่บ้านหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่แน่ชัด
พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี กล่าวว่า คดีนี้เริ่มจากรับแจ้งและหลังสอบสวนเจ้าทุกข์ก็มีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรก จึงให้ชุดสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลหาความชัดเจนก่อนมาทราบว่าทั้งหมดคือเกิดความเข้าใจผิดเรื่องอุบัติเหตุขับรถเฉี่ยวชนกัน และสื่อสารกันผิดเข้าใจคนละเรื่อง ส่วนเรื่องการชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ตามที่ผู้ป่วยให้ข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดสั่งการให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้
