ตร.ปทส. สรุปสำนวนสั่งฟ้อง ปารีณา รุกป่าจอมบึง โทษหนักคุก 20 ปี พ่อทวี โดนด้วย เตรียมรับทราบข้อหา

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผบก.ปทส. พ.ต.อ.ธีระพงษ์ วงศ์มุนีวร ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปทส. พ.ต.ท.คำนวณ จันทร์อนันต์ รองผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปทส. และคณะพนักงานสอบสวน ประชุมสรุปสำนวนคดีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดิน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนตรวจสอบรายละเอียดของสำนวนการสอบสวนจนเรียบร้อย หลังจากต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาทางป.ป.ช.ส่งคดีกลับคืนมาให้บก.ปทส.รับไปดำเนินการ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และเตรียมส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ จ.ราชบุรี สั่งฟ้อง ซึ่งตัวของ น.ส.ปารีณาเองนัดหมายกับพนักงานสอบสวนแล้วว่า จะมาพบอัยการด้วยตัวเองวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวต่อว่า สำนวนที่พนักงานสอบสวนสรุปให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง มีด้วยกันทั้งหมด 6 แฟ้ม หนากว่า 2,408 หน้า และสอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่น.ส.ปารีณา ร้องขอมาอีก 3 ปาก เป็นพยานที่ดินข้างเคียง

อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบความผิด 4 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และม.31 ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเบ็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

3.ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า กระทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่าห้าสิบไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต

และ 4.ความผิดตามพ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ.2520 ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีคดีบุกรุกป่าฯ ที่มีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000บาท นอกจากนี้ น.ส.ปารีณา ยังจะถูกดำเนินคดีในฐานะบุคคลและนิติบุคคลผู้มีอำนาจเต็มอีกด้วย

ทั้งนี้ คดีนี้มีผู้กล่าวหาร้องเรียน 5 ราย ประกอบด้วย นายวีระ สมความคิด, นายพัฒนะ ศิริมัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักป่าไม้จังหวัดราชบุรี, นายสุรเชษฐ์ ศรีแดงรักษา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้อำนวยการป่าไม้จังหวัดราชบุรี, นายวัชระ ละอออ่อน นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 และนายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด

โดยมีน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว หลังพบว่ามีการบุกรุกที่ป่าไม้ ของเขาสนฟาร์ม หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา

และนอกจากจะดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณาแล้ว พนักงานสอบสวน บก.ปทส.ยังเรียก นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 23 พ.ย. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อหาเดียวกันกับน.ส.ปารีณา กรณีถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐ กว่า 1 พันไร่ บริเวณหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน