น่าอับอาย! โรม ซัดแรง ประยุทธ์ มือถือสากปากถือศีล บอกรับฟังเยาวชน แต่เอาตำรวจไปไล่ยิงกระสุนยาง ชี้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ไม่ห้ามเดินขบวนไปสถานที่ประชุมเอเปค
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค ที่บริเวณถนนดินสอ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ระบุข้อความว่า “ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ไม่มีตรงไหนเลยที่ห้ามมิให้ประชาชนเดินขบวนไปยังสถานที่จัดประชุม APEC”
“แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้ศูนย์ประชุมสิริกิติ์เป็นสถานที่ตามความในมาตรา 8 ของพ.ร.บ.ชุมนุม แต่มาตรา 8 กำหนดแค่ว่า การชุมนุมต้องไม่ขวางทางเข้าออกหรือทำให้ไม่สามารถใช้งานสถานที่ได้ ดังนั้น ต่อให้ประชาชนเดินขบวนไปถึงหน้าศูนย์ประชุมฯ ถ้ายังจัดการให้การประชุมดำเนินต่อไปได้ ประชาชนก็ย่อมมีสิทธิชุมนุมได้ ซึ่งในความเป็นจริงกำลังตำรวจที่มีสามารถบริหารจัดการได้แน่ๆ”
“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ #ม็อบ18พฤศจิกา65 คือ ตำรวจไปตั้งแนวขวางและสลายการชุมนุม ตั้งแต่บริเวณลานคนเมืองและถนนราชดำเนิน ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ประชุมฯ เกือบ 10 กิโลเมตร ผู้ชุมนุม ณ ตอนนั้นไม่ได้มีความใกล้เคียงกับการจะทำให้การประชุมจัดต่อไม่ได้เลย ทั้งยังปรากฏภาพตำรวจเตะผู้ชุมนุม ใช้ปืนกระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุมระยะประชิด โดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า”
“สิ่งที่สร้างความอับอายขายหน้าต่อชาวโลกมากที่สุด จึงไม่ใช่การที่มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วง ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนในนานาอารยประเทศเขาทำกันได้ แต่คือการใช้อำนาจอย่างล้นเกินของรัฐบาลเพื่อกดขี่ผู้เห็นต่างนั่นเอง” นายรังสิมันต์ ระบุ
นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า สิ่งที่น่าขายหน้าชาวโลกที่สุด ไม่ใช่มีคนมาลงถนนประท้วง แต่คือผู้นำประเทศปากบอกจะรับฟังเยาวชน คิดสโลแกนราวกับเปิดรับทุกภาคส่วน เอาป้ายไวนิลสวยๆ ไปบังตู้คอนเทนเนอร์ แล้วเอาตำรวจไปไล่ยิงกระสุนยางใส่ประชาชน กระทืบสื่อ ทั้งที่ไม่มีแนวโน้มใกล้เคียงว่าจะทำประชุมล่มได้เลย
“สิ่งที่คนไทยควรอับอายที่สุด คือการที่ประเทศนี้มีผู้นำมือถือสากปากถือศีลอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายรังสิมันต์ ระบุ