สองนางงามรุ่นพี่ “น้ำตาล-แนท” เคลียร์ดราม่า “มิสนิการากัว” ใช้ล่ามแปลไม่ผิด เผยวินาทีเสียน้ำตาให้ “แอนโทเนีย”

ยังคงร้อนแรงและเป็นเรื่องที่ติดค้างในใจแฟนนางงามไทย กับการที่ แอนโทเนีย โพซิ้ว อีกนิดเดียวจะก้าวเข้าสู่มงจักรวาลแล้ว เพราะแม้ทุกรันเวย์จะทำได้ ทำดี ทำปังทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุด มิสนิการากัว ก็คว้ามงไปครอง แต่อย่างที่บอกไปว่าท่ามกลางกระแสแฟนนางงามไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องใช้ล่ามแปล

ด้าน “น้ำตาล ชาลิตา” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 และ “แนท อนิพรณ์” ยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 มาออกรายการ “คุยแซ่บโชว์” ทางช่อง one31 ได้อธิบายถึงการใช้ล่ามบนเวทีมิสยูนิเวิร์สว่าไม่ใช่เรื่องผิด รวมไปถึงดราม่าว่า “มิสนิการากัว” ไม่สมมงจริงไหม? พร้อมย้อนกลับไปวันที่ประกวดปีของตนเองว่ารู้สึกยังไง

เป็นไงบ้างที่ไทยแลนด์ได้รองอันดับ 1? น้ำตาล :นอยด์ ร้องไห้เลย น้ำตามาตั้งแต่เข้า top3 และน้ำตาแตกตอนไม่ได้มง ตอนนี้มูฟออนเป็นวงกลม นิการากัวเขาก็สมมง จากดูรอบพรีลิมและไฟนอล เขาตอบคำถามดีทุกรอบด้วย ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดเลย เขาดูสดใส ซึ่งทั้งเสียดายและเสียใจมันปนความรู้สึกตอนที่เราเคยตกรอบมาบนเวทีตอนนั้น มันโดนใจมาก”

แนท : “เราไม่ติดตามตั้งแต่แรก แต่เราเชียร์แอนโทเนียตั้งแต่ก่อนเขามาประกวดมิสยูนิเวิร์ส เราติดตามเขาทุกย่างก้าว วันนี้ผลมันออกมา เราควรจะแสดงความยินดีกับเขา ไม่อยากให้เราเสียใจมากเกินไป เพราะลืมไปไหมว่าเราได้ที่ 2 ไม่เคยมีใครได้จับมือมานานกว่า 35 ปี ไม่ได้ตำแหน่ง แต่ตำแหน่งที่น้องได้คือมันสุดยอด เสียใจที่ไม่ได้มงที่สาม แต่ไม่เสียดายเลยที่เขาไม่ได้ ไม่มีวันไหนที่เขาไม่สมศักดิ์ศรี”

ย้อนกลับไปวันที่ไปประกวดมันกดดันแค่ไหน? แนท : “ของแนทปี 2015 ตอนนั้นเป็นเด็กต่างจังหวัด ความกดดันเท่ากับ 0 ทำอะไรง่ายๆ สบายๆ เป็นคนที่ไม่สนใจคำพูดคนอื่นที่ทำให้เราแย่ อยู่บนทางเดินของตัวเอง จนมาถึงปีน้ำตาล มารีญ่าเขาร้องไห้ทำไมอ่ะ เป็นคำถามที่ค้างในใจมานาน จนเรามารีแคปนางงาม เราน้ำตาไหลเลย เพราะเราไม่เคยดูตัวเองย้อนหลังเลย แต่ถ้าเรารู้ข้อมูล การเดิน การตอบคำถาม เราอาจจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่ถ้ามองย้อนกลับไป เราก็ทำเต็มที่แล้ว”

น้ำตาล : “ตอนไปประกวดปี 2016 ไม่ได้กดดัน แต่ก่อนจะไป กดดันมาก พี่กะเทยให้ความหวังเยอะเกิน ร้องไห้มาก แต่พอไปที่โน้น เราปล่อยจอยทุกโมเมนต์ กดดันเฉพาะตอบคำถาม เราพูดไม่เก่ง ใช้ศัพท์ในหัวไม่ค่อยถูก เป็นคนตอบคำถามและจบไม่ลง”

แนท : “สมัยนั้นการเทรนด์มันน้อยมาก”

น้ำตาล : “ยุค TPN ที่เขาได้มง เขาเคยประกวดเวทีอื่นมาแล้ว เขามีประสบการณ์ที่เป็นนางงามมาแล้ว แต่สำหรับตาลกับพี่แนทคือ 0 ไม่เคยอยู่ในวงการ ต้องตอบเป็นนางงามแค่ไหน”

แนท : “ดีใจที่การประกวดนางงามเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เขาเก็บทุกรายละเอียด ทำให้เวทีนางงามพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้”

น้ำตาล : “เดี๋ยวนี้นางงามมีคนช่วยดูแล แต่ปีก่อนพี่แนทเอง ต้องไปหาชุดเอง เดินตลาดเอง แฟนนางงามช่วยหา แต่ปีของพี่แนท โชคดีได้พี่เอมาทำลุกส์บุ๊คให้”

ตอนที่เขาเหลือกัน 2 คนบนเวทีปีล่าสุด เรารู้สึกยังไง? น้ำตาล : “ก็หวังมง ตอนที่นิการากัวตอบคำถาม เราก็ฟังไม่ออก (หัวเราะ) แต่สิ่งที่เขาตอบมา มันดีมากๆ การตอบคำถามเขาดี แต่มันมีการขยายความมากขึ้น”

แนท : “แต่มันมีดราม่าในการใช้ล่ามแปล เอาปีของแนทนะ คือถ้าเราจะตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ หรือเราจะใช้ล่ามก็ได้ ต่อให้เราพูดภาษาอังกฤษได้ เราก็ขอใช้ล่ามได้ คิดง่ายๆ คือภาษาไทยที่พูดกับภาษาไทยที่เป็นทางการไม่เหมือนกัน งั้นภาษาอังกฤษคงเหมือนกัน เราสามารถเลือกใช้ล่ามแปลหรือไม่ก็ได้ วิธีการตอบกับดราม่าที่บอกตอบไป แปลไป ซี่งจริงๆ มันก็แฟร์การให้กฎเกณฑ์

น้ำตาล :มันมีแบบนี้มาหลายปีแล้ว และปีที่ตาลไปประกวด เขาก็ใช้ล่าม และเขาก็ได้มงเหมือนกัน ถ้าตอบทีเดียวจบ และล่ามแปลออกมาไม่ตรงกับที่เราพูด ความหมายเปลี่ยนเลยนะ

ถ้าปีหน้าไปประกวด ควรใช้ล่ามไหม? แนท :ใช้ได้ เพราะสิ่งที่เขาวัดไม่ใช่แค่ภาษา เขาวัดมุมมอง ทัศนคติ เป็นอะไรมากกว่า แต่สุดท้ายเขาจะวัดว่าคนนี้มีมุมมองยังไง ทัศนคติเป็นแบบไหนมากกว่า

น้ำตาล : “เขาไม่มีกฏห้ามอะไร”

การที่มีล่าม และทำให้เรามีเวลามากขึ้น มีเวลาคิดคำตอบได้นานกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ใช้ไหม? น้ำตาล : “หนูเข้าใจนะ ตอนที่เขาถามหนูก็คิด และตอนที่เขาแปล หนูก็คิดอยู่นะ พอรู้ว่ามันแปลว่าอะไร เราพยายามคิดก่อน ใช้ล่ามมันมีเวลาคิดอยู่แล้ว พอใช้ล่าม มันไม่ได้ง่ายนะ ตอบไป ล่ามแปลไป แล้วเราต้องเชื่อมโยงประโยคที่เราตอบไปด้วย มันยากเหมือนกัน”

และคิดว่าปีนี้ นิการากัว สมมงไหม? น้ำตาล : “สมมง”

แนท : “สมมง แต่ไม่ได้แปลว่าแอนโทเนียไม่ดีนะ แต่คน 80 คน เขาสวยเหมือนกันหมด MU ดูแล้วว่าสวยเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับกรรมการว่าคนไหนจะเหมาะสมสุด เหมือนว่าเขาเลือกใคร อย่างนิการากัว ในรอบห้องดำ ที่แอนออกมาพูดว่า 10 ปีต่อจากนี้จะทำอะไร ย้อนกลับไปคำถามแนท ว่าคุณเรียนอะไรอยู่ และ 10 ปีต่อจากนี้จะเป็นอะไร คือถ้าเชื่อมโยง นิการากัว เขาเป็นจิตวิทยา บวกเป็นมิสยูนิเวิร์ส 10 ปี ต่อมาเขาก็เป็นมิสยูนิเวิร์สและนักจิตวิทยามันเป็นการลิงก์จิตใจของคนอื่นด้วย

น้ำตาล : “สมมง ตาลก็เชียร์นิการากัว เพราะเขาเดินดีมาก องค์รวมดีมาก”

ต้องคนแบบไหน ถึงจะไปชิงมงได้? น้ำตาล : “เดี๋ยวก็มา ปีที่ตาลเข้า 2015 แฟนนางงามก็พูดว่าจะหาแบบน้ำตาลได้ที่ไหน เป็นไง เข้ารอบ 5-6 กันเต็มเลย มันไม่ติดว่าต้องไทยแท้หรือลูกครึ่ง ใครก็ได้ที่มีความพร้อม”

แนท : “ว่าปีหน้าถ้าใครจะมาประกวดต้องศึกษาปีต่างๆ ที่ผ่านมา ว่าเขาทำยังไงถึงได้เข้ารอบ เขาจารึกประวัติศาสตร์ยังไง เก็บทุกปีมาวิเคราะห์กัน”

การที่เขาได้ เป็นประเทศในแถบลาติน กรรมการก็ลาติน คิดว่าเขาเทคะแนนให้ไหม? น้ำตาล : “ตอนมาจัดที่ไทย ก็มีกรรมการที่ไทย มันก็รวมๆ กัน พวกหนูบอกไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี เพราะมันคือวงในและองค์กรของเขา เราไม่มีหน้าที่ไม่คัดค้านว่าไม่ใช่นะ ต้องให้เกียรติเจ้าภาพ”

แนท : “เราไม่รู้ว่าทางนั้นคิดอะไร หนูโฟกัสแค่คนของเราเท่านั้น เขาทำเต็มที่แล้ว ภูมิใจในเด็กคนนี้ เขาทำให้เรากลับมาเชียร์นางงามไทย”

กับแอนโทเนีย ได้คุยกับเขาไหม? น้ำตาล : “ตอนนั้นไปเดินแบบกัน ก็ได้เจอทั้งแอนโท แอนชิ พี่แนท ก็ได้นั่งคุยกัน บอกให้ทำเต็มที่ เก็บเกี่ยวโมเมนต์ตรงนั้น”

แนท : “เราก็สอนเขาไปว่าต้องแข็งแกร่ง เขาเป็นคนน่ารัก เป็นคนใจดีมาก เขาเป็นคนแบบอะไรก็ได้ ตอนนั้นแฟชั่นวีค ก่อนหน้านั้น 1 วันมีเหตุการณ์ยิงที่พารากอน และมีน้องคนหนึ่งเข้ามาหาแอน เขาอาจจะมาด้วยความรักแอน แต่วิธีการเข้าหากับโต้ตอบ น่ากลัวไปนิดนึง เขาเข้ามาแบบเสียงตื่นเต้น แต่เสียงดังจนน่าตกใจ ประชิดตัวเลย

ในสายตาแนทว่ามันไม่ปลอดภัย แนทก็เข้าชาร์ทตัวคนๆ นั้น ก็หลอกล่อให้เด็กคนนั้นไปตรงลิฟต์ และให้การ์ดเอาออกไป ตอนแรกคิดว่าแอนไม่เป็นไร สรุปเขาตัวสั่นหมดเลย กลัวมากๆ แนทก็สวนแอนไปเลยว่า เราไม่ต้องใจดีกับทุกคน เราต้องเข้มแข็งและสตรอง อะไรที่ไม่ปลอดภัย คนข้างๆ ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็ต้องช่วยตัวเอง เดินหนีมาเลย”

ทำไมน้ำตาลเวลาพูดถึงน้องและอยากร้องไห้? น้ำตาล : “คือมันรู้สึกอิ่มใจ ตัวแทนไปถึงจุดที่เราไปความฝันตรงนั้น หนูอินกับการประกวดมาก ตอนนั้นไม่ได้คิดเลยว่าเราจะตกรอบ คิดว่าเราต้องมงให้ได้ มีความรู้สึกเอาให้ได้ แต่พอมันตกรอบ มันกลายเป็นปมที่สุดในชีวิต(น้ำตาคลอ)

มันเป็นปม เวลาใครมาด่าเรื่องตอบคำถาม ตอนนั้นคนตอบว่าดีแล้ว แต่พอมาตอนนี้ หนูดูแรง ดูตอบตรง ทำไมตอนนั้นตอบได้ไม่ดี ตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกัน ตรงนี้มันคือปมที่เราเสียใจมากที่สุดในชีวิต มันผิดหวังในตัวเอง ดราม่าตรงนั้นเป็นแผลในใจ”

แนท : “เราก็บอกให้เขาทิ้งไว้ เราเข้ารอบ 15 เปิดประตู แต่น้ำตาลเข้า top6”

น้ำตาล : “มูฟออนจากตัวเองไม่ได้ มันเป็นการผิดหวังที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเรา คือหนูไม่เคยคาดหวังอะไร แต่พอหวัง มันยิ่งกว่าอกหัก ทำใจนานมาก แต่ตอนนี้มันแค่เป็นปม”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน