“พัชรวาท” สั่งแก้วิกฤต ปะการังฟอกขาว อ่าวไทย-อันดามัน จี้ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ หามาตรการรับมือทุกมิติ แจ้ง กรมอุทยานแห่งชาติฯ ปิดจุดดำน้ำบางแห่ง
8 พ.ค. 67 – ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงสถานการณ์ปะการังฟอกขาว ว่า
สถานการณ์ปะการังฟอกขาวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พบว่ามีความรุนแรงในฝั่งอ่าวไทยมากกว่าฝั่งอันดามัน โดยเกิดการฟอกขาวแล้วมากกว่า 50% ของพื้นที่แนวปะการังฝั่งอ่าวไทย เช่น พื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะคราม จ.ชุมพร
สำหรับในฝั่งอันดามันพบการฟอกขาว ไม่เกิน 20% ของพื้นที่ โดยส่วนใหญ่เกิดในบริเวณที่มีความลึกไม่เกิน 2 เมตร เช่น เกาะรอก จ.ตรัง ส่วนใหญ่จะพบว่าปะการังมีสีซีด ซึ่งเป็นผลกระทบจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2 สัปดาห์
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ขณะนี้มหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญ El Niño-Southern Oscillation (ENSO) ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย (SST) และมีการคาดการณ์ว่า จะเกิดปะการังฟอกขาวในประเทศไทย ช่วงระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. 67 โดยระดับความรุนแรงอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ที่แนวปะการังพื้นที่ จ.ตราด จ.จันทบุรี จ.ชุมพร และจ.กระบี่ อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก หรือที่เรียกกันว่า โลกเดือด เมื่อน้ำทะเลร้อนขึ้นปะการังที่มีความอ่อนไหวมากๆ ก็จะเกิดการฟอกขาว เพราะสาหร่าย “ซูแซนเทลลี” จะอพยพออกจากเนื้อเยื่อของปะการัง เพื่อแสวงหาสภาพแวดล้อมใหม่ให้มีชีวิตรอด ทำให้ปะการังสูญเสียแหล่งอาหารสำคัญ และเหลือเพียงโครงสร้างหินปูนสีขาว
รมว.ทส. ระบุอีกว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ปะการังฟอกขาว เช่น การปล่อยน้ำบำบัดหรือสารเคมีต่างๆ จากโรงงานอุตสาหกรรมลงสู่ทะเล น้ำจืดที่ไหลลงสู่ทะเลในปริมาณมากส่งผลต่อสภาพความเค็มของน้ำทะเล
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน และหน่วยงานทุกภาคส่วนให้ช่วยกันลดปัจจัยที่จะเพิ่มความเครียดให้กับปะการัง เช่น การใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง การไม่ทิ้งขยะในแนวปะการัง และไม่ปล่อยน้ำเสียลงในทะเล
ทั้งนี้หากพบเห็นการเกิดปะการังฟอกขาว สามารถแจ้งข่าวสารผ่านเว็บไซต์ https://thailandcoralbleaching.dmcr.go.th/th เพื่อทุกฝ่ายจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลงพื้นที่ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ปะการังฟอกขาวอย่างใกล้ชิดต่อไป
พัชรวาท กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้สั่งการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาปิดจุดดำน้ำบางแห่ง ที่พบปะการังฟอกขาวเป็นจำนวนมาก และให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งฯ พยายามช่วยชีวิตปะการัง โดยดำเนินการตามหลักวิชาการ เช่น การลดปริมาณแสงโดยการใช้วัสดุปิดบังแสงในแนวปะการังน้ำตื้น และการย้ายปะการังบางชนิดลงไปในระดับน้ำที่ลึกมากขึ้น และที่มีอุณหภูมิน้ำต่ำกว่าปกติ เพื่อให้ปะการังได้พักฟื้นกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง