เมื่อ ก.พ. 2022 ฮาคิม ซิเยก เพิ่งจะประกาศหันหลังให้ทีมชาติโมร็อกโกไปแท้ๆ

เพราะ วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ปฏิเสธจะเรียก ซิเยก ร่วมทีมชาตินานถึง 15 เดือน นั่นทำให้วาฮิดมีปัญหากับสมาคมฟุตบอลโมร็อกโก และสุดท้ายสมาคมฟุตบอลเลือก ฮาคิม ซิเยก ห้องเครื่องจากเชลซีมากกว่า

ซิเยกอาจจะไม่ใหญ่กว่าโค้ช แต่เขาเป็นนักเตะที่โมร็อกโกไม่ควรขาดไปในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ซิเยกเกิดและโตในเนเธอร์แลนด์ ที่ดรอนเดน ห่างจากอัมสเตอร์ดัม 700 ก.ม. ในชุมชนที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมสูง ครอบครัวพักในอพาร์ตเมนต์ 2 ห้องนอนกับพี่น้องอีก 6 คน ซิเยกสูญเสียพ่อซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสไปตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เขาเสียศูนย์ และละทิ้งทุกอย่างรวมทั้งฟุตบอลที่รักไว้เบื้องหลัง แต่ด้วยพรสวรรค์ทำให้เขาถูกดึงกลับสู่เส้นทาง

และโด่งดังสุดๆ กับอาแจ็กซ์ ซึ่งเฟรนกี เดอ ยอง, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ก ฯลฯ

ซิเยกสามารถเล่นให้ “อัศวินสีส้ม” ได้ แต่เขาเลือกจะเล่นให้กับแผ่นดินเกิดของแม่ ตลอดการเล่นให้โมร็อกโก ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ว่ากันว่า มาร์โก ฟาน บาสเทน ตำนานอัศวินสีส้มถึงกับหัวเสียที่ซิเยกไม่เลือกเนเธอร์แลนด์

วันนี้ ซิเยก กองกลางวัย 29 ปีคือกำลังสำคัญที่พาทีมชาติโมร็อกโก สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาติแรกจากทวีปแอฟริกาที่ผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022 มาไกลกว่าเนเธอร์แลนด์ ที่เขาปฏิเสธเสียอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน