หลังจากที่ “สิงโตคำราม”อังกฤษ ประเดิมสนามนัดแรกในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ด้วยการเฉือนตูนิเซียหวุดหวิด 2-1 จากการโหม่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังของ แฮร์รี เคน กองหน้ากัปตันเมื่อช่วงดึกวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาพร้อมกับเก็บ 3 แต้มเต็มเป็นรองจ่าฝูงกลุ่มจี ด้วยการมีคะแนนเท่ากับเบลเยียมแต่ประตูได้-เสียเป็นรอง
เกมดังกล่าว มิร์เรอร์ สื่อดังเมืองผู้ดีรายงานว่ามียอดการรับชมถ่ายทอดสดมากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยมียอดดูการถ่ายทอดสดทั่วโลกถึง 21.3 ล้านคน แบ่งเป็นการชมทางโทรทัศน์ 18.3 ล้าน และทางออนไลน์สตรีมมิงอีก 3 ล้านคน ซึ่งเกมดรามาดังกล่าวมียอดผู้รอชมถ่ายทอดสดเทียบเท่ากับพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีของราชวงศ์อังกฤษกับเมแกน มาร์เคิล เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยจำนวน 18.3 ล้านคนที่ชมถ่ายทอดสดทางทีวีอยู่ดูจนนาทีสุดท้ายของเกม
โดย แกรี ลินิเกอร์ อดีตซูเปอร์สตาร์ลูกหนังเมืองผู้ดีรวมถึงคอมเมนเตเตอร์ของบีบีซี ทวีตบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “น่าประหลาดใจมากสำหรับเกมนัดแรกของกลุ่ม ถือว่านี่คือพลังของฟุตบอลและนี่คือพลังของฟุตบอลโลก” เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นว่าทีมอังกฤษที่อาจจะทำผลงานไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่มีศักยภาพอย่างยิ่งในการดึงดูดผู้ชมให้กลับบ้านเพื่อเฝ้ารอหน้าจอทีวี
ตามสถิติระบุชัดว่าจะมีผู้อย่างน้อย 10 ล้านคนเฝ้ารอดูการแข่งขันของอังกฤษไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการแข่งขันแต่ละทัวร์นาเมนต์ อย่างไรก็ดีสถิติล่าสุดยังไม่ใช่จำนวนผู้ชมสูงสุดที่ดูอังกฤษในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย โดยเกมที่อังกฤษพบเยอรมันตะวันตกในฟุตบอลโลก ปี 1990 มียอดคนดูสูงถึง 25.2 ล้านคนมาเป็นอันดับหนึ่ง
ส่วนอันดับสองจำนวน 23.8 ล้านคนในเกมอังกฤษพบอาร์เจนตินา ฟุตบอลโลก ปี 1998, อันดับสาม 23.6 ล้านคนเกมพบแคเมอรูนในฟุตบอลโลก ปี 1990
