การอักเสบของต่อมทอนซิลที่พบได้ทั่วไปมักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย เมื่อทอนซิลอักเสบจากเชื้อไวรัสจะทำให้รู้สึกเจ็บคอเล็กน้อยถึงปานกลาง อาจมีอาการเป็นหวัด น้ำมูกใส ไอ ไข้มักไม่สูงมาก ถ้าตรวจช่องคอจะพบทอนซิลมีลักษณะแดงและโตเล็กน้อย แต่อาการจะรุนแรงหากทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอมากจนกลืนน้ำลายหรืออาหารลำบาก อาจมีอาการปวดร้าวขึ้นไปที่หู ตรวจช่องคอจะพบทอนซิลบวมแดงมาก บางครั้งอาจพบจุดหนอง

รักษาอย่างไร? เมื่อเป็นทอนซิลอักเสบ
ถ้าทอนซิลอักเสบจากเชื้อไวรัส แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ ได้แก่ ยาลดไข้ ยาแก้ปวด หากมีอาการของหวัดก็จะให้ยาลดน้ำมูก แก้ไอ แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากเกิดการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากจะรักษาตามอาการแล้วยังต้องให้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อในการรักษา โดยอาการมักจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อให้ครบ 7-10 วัน

แต่ถ้าหากการอักเสบนั้นเกิดมากกว่า 7 ครั้ง ใน 1 ปี หรือเกิน 5 ครั้งติดกันใน 2 ปี หรือต่อมทอนซิลมีขนาดใหญ่ มีปัญหาเรื่องนอนกรน ทางเดินหายใจอุดกั้น มีกลิ่นปากจากทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือนิ่วทอนซิล เกิดภาวะแทรกซ้อน มีหนองข้างทอนซิล และทอนซิลโตผิดปกติข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งอาจจำเป็นจะต้องพิจารณารักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

การผ่าตัดต่อมทอนซิลไม่น่ากลัวและไม่มีข้อเสีย เพราะต่อมทอนซิลที่เป็นโรคถือว่าเป็นต่อมที่ไม่ทำงาน จะไม่ฆ่าเชื้อโรค แต่จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจึงต้องตัดทิ้ง โดยยังมีต่อมน้ำเหลืองในช่องคอที่ทำงานจับเชื้อโรคแทนอีกมาก ไม่ได้ทำให้เรามีภูมิต้านทานที่ลดลง แต่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

การผ่าตัดต่อมทอนซิลไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ แต่เป็นการรักษาที่ทำให้ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือหินปูนทอนซิล หายเป็นปกติได้ ใช้เวลาในการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 45-60 นาที ด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีเลเซอร์, คลื่นวิทยุความถี่สูง และเทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ลดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อ เส้นประสาทและหลอดเลือด ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว

พญ.ศรินทร์ญา จินดาวงศ์
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคหู คอ จมูก
โรงพยาบาลรามคำแหง สายด่วนสุขภาพโทร 0 2743 9999 ต่อ 2999

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน