วันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.อดุล เจริญคุณวิวัฏ ผกก.สภ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สว่างอารมณ์ ได้นำหมายค้นที่ 146 / 2561 ของศาลจังหวัดอุทัยธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักใน ต.ไผ่เขียว ของนายพานิช รุดทองจันทร์ อายุ 39 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่านายพานิช นั้นพัวพันกับแก๊งยาบ้ารายใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกให้คนภายในบ้านให้เปิดประตู เพื่อแสดงหมายค้น แต่ไม่มีใครยอมเปิด
จากนั้น พ.ต.อ.อดุล ได้รายงานให้ พล.ต.ต.บัญชา ปั่นประดับ ผบก.ภจ.ว.อุทัยธานี พร้อมกับขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภจ.ว.อุทัยธานีมาช่วยปิดล้อม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน 15 นาย ไปยังบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจา ให้คนภายในบ้านเปิดประตูบ้าน โดยมี น.ส. ปิยะภรณ์ ชื่นดอนกลอย อายุ 31 ปี ภรรยาของนายพานิช เป็นผู้เจรจา ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ โดยบอกว่าถ้าเจ้าหน้าที่งัดประตูเข้ามา นายพานิช จะฆ่าตัวตาย
เจ้าหน้าที่เจรจาไปได้ 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่ได้ผล จึงได้ตัดไฟฟ้าในบ้าน เพื่อกดดัน โดยคนในบ้านได้เปิดประตูเพื่อให้เจ้าหน้าที่พาตัวนางแตงไทย รุดทองจันทร์ อายุ 70 ปี แม่ของนายพานิช ออกจากที่เกิดเหตุก่อน เนื่องจากมีโรคเบาหวาน ความดัน อยู่ด้วยเกรงว่าจะช็อก หลังจากรอมานาน เกิดเสียงปืนดังภายในบ้าน 1 นัด น.ส. ปิยะภรณ์ ได้กรีดร้องว่านายพานิช ยิงตัวตายแล้ว เจ้าหน้าที่จึงพังประตูบุกเข้าไป เห็นนายพานิช นอนอยู่บนเตียงภายในมุ้ง นอนหายใจโรยริน ภรรยาร้องไห้ค่ำครวญ
จากการตรวจค้นในบ้าน พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ภายในลำกล้องมีปลอกกระสุนคาลำกล้อง 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั่นตรวจค้นถังข้าวสาร พบยาบ้า 14 ถุง และขวดยานัดห่อหุ้มด้วยผ้าเทปพันสายไฟ ภายในมีขวดมียาบ้า จำนวน 2 ขวด ซุกซ่อนอยู่ในถังข้าวสารจำนวน 3000 เม็ด
น.ส. ปิยะภรณ์ ภรรยาของนายพานิช ผู้ตายให้การว่า ตนเองก็เพิ่งจะมาอยู่ที่บ้านของผู้ตาย และไม่ทราบว่า ผู้ตายนั้นค้ายาบ้า ซึ่งปกติผู้ตายก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ในวันที่เกิดเหตุ ตนเองก็จะออกมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้น แต่ถูกนายพานิช ผู้ตาย บังคับไม่ให้เปิด โดยถ้าเปิดจะยิงตัวตาย จนสุดท้ายก็ก่อเหตุยิงตัวตายหนีความผิดจริงๆ
