วันนี้ 25 เม.ย. 61 จากกรณีที่ กรมการแผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.มะเร็งแห่งชาติ และนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง ว่ายาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็งของหมอแสงรักษาโรคมะเร็งไม่ได้จริง ส่วนหมอแสงประกาศจะขอแจกนี้ยางวดนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าใครอยากจะกินต่อต้องไปขึ้นทะเบียนกับสถาบันโรคมะเร็งเท่านั้น ถึงจะมารับยาได้
คืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 25 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางสัมภาษณ์ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล (หมอแสง) พร้อมกับเปิดเผยถึงรายละเอียดในการประชุมว่า อธิบดีกรมการแพทย์ได้แถลงผลการวิจัยยารักษาโรคมะเร็งของตนว่า สมุนไพรตัวนี้มีฤทธิ์น้อยมาก ฆ่ามะเร็งได้ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องขอบคุณนพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.มะเร็งแห่งชาติ ท่านก็บอกว่ากินได้วิจัยมาแล้วว่าไม่เป็นพิษไม่มีอันตรายกินได้ แต่จริงแล้วการนำสมุนไพรของผมไปตรวจสอบ น่าจะเป็นหน้าที่หลักของแพทย์แผนไทยเป็นคนวิจัย ไม่ใช่ส่งไปที่ไหน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.มะเร็งแห่งชาติ ท่านไม่ได้จบสมุนไพรท่านจบแพทย์สมัยใหม่ ความรู้ด้านสมุนไพรท่านยังไม่ยอมรับ จริงแล้วในหลอดทดลองแก้วเราสารเคมี ทำลาย 50-80 และ 70 เปอร์เซ็นต์นั่นก็อีกเรื่องนึง แต่ในสมุนไพรตัวนี้อย่าใช้คำว่าไม่สามารถทำลายมะเร็งฆ่ามะเร็งไม่ได้ จริงๆแล้วที่ท่านชี้แจงออกมา ว่า ก็มันได้แค่ 8 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ 15 เปอร์เซ็นต์
ผมถามว่าจะคุณภาพสมุนไพรจะเอาเท่าสารเคมีเชียวเหรอ ในว่าเมื่อทุกคนเขาบอกว่า มะเร็งเนี่ยไม่สามารถรักษามะเร็งให้หายขาดได้ เมื่อมันเข้าร่างกายแล้วทำไมเราจะไม่ทำให้มันอยู่ในร่างกายแล้วปรับสภาพร่างกายเราเพื่อไปฆ่ามันจะไม่ดีกว่าหรือ ต้องฆ่าด้วยสารเคมียังงั้นเอาอะไรฆ่าก็ได้ ทำไมไม่มองผลกระทบของร่างกายว่าไอ้สารเคมีมีผลกระทบไหม ทำไมทุกสถาบันทุกหมดจะไม่พูดว่า แสดงว่าสารเคมีและฉายรังสีไม่เป็นพิษเป็นภัยไม่แพ้ต่อร่างกาย จริงๆแล้วผลที่วิจัยออกมาเป็นของสถาบันโรคมะเร็งของกรมการแพทย์ถ้าฆ่าไม่ได้ถึง 50 %ถือว่าใช้ไม่ได้ ผลวิจัยออกมาว่า มีตั้งแต่ 13% 9% และ 30% 28% 12 % มีหมด ถ้าอย่างงั้นผมไม่รู้หลอก ไม่ถึง 50 ไม่สามารถลองในตัวคนได้ก็ไม่เป็นไร ผมอยากถามสมุนไพรที่โฆษณาทุกโรงพยาบาลว่าส่งไปให้สถาบันมะเร็งว่าทดสอบให้ผมซิมันเป็นอย่างไง เขาบอกว่ายังไม่มีการทดสอบ จริงๆแล้วด้วยความความเคารพแพทย์ทุกคนเก๋ง ทำให้ผมถูกต้องซิว่าจะทำอย่างไงทำด้วยความถูกต้อง ไม่ใช้บอกว่าฆ่าไวรัชฆ่าเชื้อมะเร็งไม่ได้ แต่จริงที่รายงานที่รายงานสถาบันโรคมะเร็งที่อยู่ในมือก็มีผลกี่เปอร์เซ็นต์ ของเขาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ของเขาได้ 64%ของเราได้ 26%ฆ่าด้วยสารเคมีของเขามีระบุหมด สมุนไพรกี่เปอร์เซ็นต์ถ้าต่ำกว่า 50 % มันฆ่ามะเร็งไม่ได้ เอายาฆ่าแมลงใส่ไปก็ได้
หมอแสงยังกล่าวอีกว่า “เราทำเพื่อสมุนไพรถ้าอย่างงี้ มีปัญหาเรื่องมากเดือนนี้อาจจะเป็นเดือนสุดท้าย ผู้หลักผู้ใหญ่ใครจะกินไม่มีแล้ว นอกระบบ เชิญทำเรื่องถึง ผอ.สถาบันโรคมะเร็ง หรือ อธิบดีกรมการแพทย์ว่าสมัครใจจะกินก็แล้วกัน ผู้ใหญ่ทุกคนทั้งตุลาการที่รับไปหลายร้อยชุดก็ไม่ต้องมาแล้ว ก็บอกว่าอย่าหน้าด้าน หมอ ตุลาการ ตำรวจ ทหาร ที่มากินก็ไปแจ้งเขียนหนังสือหน่อย ถึง ผอ.มะเร็งหรือเข้าไปก็ได้ ดิฉันมีความประสงค์ที่จะกินที่จะกินสมุนไพรตัวนี้ ไปบอกเขา หลายแพทย์ที่บอกว่าถ้าฆ่ามะเร็งไม่ได้ หน้าด้านไปแจกทำไม ก็อยากเลิกไง แล้วมาบอกว่าฆ่าไม่ได้ก็จะเลิก ถ้าเกิดไปผิดกฎหมายไปจะทำอย่างไง ต่อไปนี้ใครจะกินก็ต้องไปแจ้งที่สภาบันมะเร็ง หรือกรมการแพทย์เข้าไปเลยไปแจ้งเขา ผมจะได้เอารายชื่อที่นั่นมาแจก”
- “ผมจะไม่คิดแย่งอาชีพหมอหรอก คนที่กินต่อไปเดือนนี้เหมือนเดิมคือเดือนมิถุนายน ถ้าเดือนต่อไปไม่มีรายชื่อจากสถาบันมะเร็ง และกรมการแพทย์เราจะไม่ให้แล้ว” หมอแสงกล่าวปิดท้าย
