เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พร้อมด้วยพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.ภานุมาศ แสงส่ง และพ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจานงค์ สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายปิแอร์ อเล็น กันจุย และนายจีน โรเบิร์ต คองเน่ ทั้งสองเป็นสัญชาติแคเมอรูน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมตัวนายปิแอร์ ได้ภายในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซ.อินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง กทม. ส่วนนายจีนสามรรถจับกุมได้ที่อาคารรัชต์ภาคย์ ถ.อโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

พ.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวว่า ผู้เสียหายเป็นชาวโอมาน เข้ามาแจ้งความหลังตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินดำ หรือ Black Money เหตุเกิดเมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนของผู้เสียหายที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำธุรกิจซื้อขายทองราคาถูกกับชาวแคเมอรูน 3 คน โดยตกลงซื้อทองกันที่น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ราคาประมาณ 4 ล้านบาท ระหว่างติดต่อซื้อขาย กลุ่มผู้ต้องหาก็บอกว่าต้องการจะขายทองหนัก 15 กิโลกรัม ราคา 12 ล้านบาทเท่านั้น แต่ผู้เสียหายเตรียมเงินมาไม่พอ

พ.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาจึงหลอกลวงผู้เสียหายว่าสามารถเพิ่มจำนวนเงินจาก 4 ล้านบาท ให้เป็น 12 ล้านบาทได้ พร้อมแสดงวิธีการให้ผู้เสียหายเห็น โดยการนำธนบัตรเงินโอมาน 200 เรียล มาวางทับกับกระดาษสีขาวขนาดเท่าธนบัตรทั่วไปทาด้วยหมึกสีดาหลายชั้น แล้วนำไปหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์ประมาณ 10 นาที ก่อนจะแกะออกแล้วนำไปล้างน้ำยา ซึ่งอ้างว่าเป็นนำยาสารเคมีพิเศษ ปรากฎว่ากระดาษเปล่าดังกล่าวกลายเป็นธนบัตรจริง

พ.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงนำเงินที่เตรียมมาทั้งหมด 50,000 เรียล หรือประมาณ 4 ล้านบาท มาให้ผู้ต้องหาใช้วิธีการคล้ายกัน คือ นำเงินจริงมัดเอาไว้ 1 ห่อ และกระดาษสีขาวขนาดเท่าธนบัตรจริงอีก 1 ห่อ เอาไปวางใส่ถังซึ่งอ้างว่ามีสารเคมีชนิดพิเศษอยู่ ตอนแรกเมื่อเปิดให้ผู้เสียหายดูก็พบว่าเป็นธนบัตรจริง แต่หลังจากนั้นคนร้ายก็หลอกล่อ ก่อนสลับเอาเงินจริงจำนวนกว่า 4 ล้านบาทหลบหนีไป ส่วนเงินที่ผู้เสียหายนอนเฝ้านั้นเป็นเงินปลอม และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้อีก

ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ต้องหามีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 4 คน ซึ่งออกหมายจับเอาไว้แล้วทั้งหมด และสามารรถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว จากการตรวจสอบประวัติพบว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าว มีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง และเชื่อว่าจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งหากประชาชนท่านใดเคยตกเป็นเหยื่อแก๊งลักษณะดังกล่าวสามารถมาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่กองปราบปราม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน