วันที่ 26 เม.ย. นายแสงชัย แหเลิศตระกูล วัย 58 ปี หรือหมอแสง เปิดเผยระหว่างเดินทางมาที่ จ.นครพนม กรณีที่กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลวิจัยเรื่องยายับยั้งโรคมะเร็งของหมอแสงไม่สามารถยับยั้งโรคมะเร็งได้นั้นว่า หลังทราบข่าวตนคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายของวงการแพทย์แผนไทย ซึ่งการออกมาให้ข้อมูลลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเกิดจากการวิจัยหรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม ตนถือว่ากรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกไม่รู้เรื่องสมุนไพรจริง เพราะหากจะนำยาสมุนไพรมาเทียบกับยาแผนปัจจุบันคงเป็นเรื่องยาก
“แต่อยากให้วิจัยในเรื่องของการปรับสภาพร่างกายของผู้ป่วย และอาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รับประทานยาเข้าไป ตามหลักความเป็นจริงแทนการนำไปทดลองในทางวิทยาศาสตร์ แต่ตนยอมรับว่าเป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งถ้าหากจะมาเทียบกับสรรพคุณทางยาของสมุนไพร คงเป็นเรื่องยาก เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าวงการแพทย์เริ่มลืมภูมิปัญญาชาวบ้าน มองข้ามยาสมุนไพรที่เคยรักษาโรคมาแต่โบราณ เนื่องจากความทันสมัยมาเปลี่ยนวิถีชีวิต ทำให้ลืมยาสมุนไพรพื้นบ้านที่มีคุณค่า” หมอแสง ระบุ
นายแสงชัย ยังกล่าวด้วยว่า การทำยาสมุนไพรรักษาโรคมะเร็งของตนที่มาที่ไป พื้นฐานมีความชอบและสนใจศึกษาเรื่องนี่มานาน จึงคิดค้นจากประสบการณ์ผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้านนำมารวมกัน จนเป็นที่มาของการเกิดยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งมีเพื่อนฝูงที่อยากช่วยเหลือสังคมสนับสนุนในการผลิต โดยไม่หวังผลประโยชน์เพราะต้องการทำแจกฟรี ทำให้มีผู้ป่วยที่รับประทานยาตัวนี้ หายแล้วหลายราย อาจมีบางรายไม่หายเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายด้วย และไม่มีผลเสีย ดีกว่ารอแค่วันตายหลังแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาได้ ส่วนสมุนไพรที่นำมาผลิตเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยาทางนั้น ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ว่าจะเหมาะกับโรคอะไร ปัจจุบันตนผลิตยาแจกเดือนละไม่ต่ำกว่า 4 แสนเม็ด ก็ยังไม่เพียงพอ
หมอแสง กล่าวต่อว่า วันนี้แม้กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จะออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าไม่สามารถยับยั้งมะเร็งได้ก็ตาม ตนไม่ได้นำมาเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าผลิตยาช่วยเหลือคนป่วยมะเร็ง เพราะทุกคนที่มารับยาจะได้รับฟรี และเต็มใจมาทุกคน รวมถึงมีหลายคนกินยาแล้วหายจริง แต่ที่เสียดายคือโอกาสที่ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาภายใต้นโยบายของรัฐบาล ที่จะเสริมการผลิตยาสมุนไพรทางเลือก อยากให้กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกใจกว้างกว่านี้
“หากสิ่งไหนดีมีประโยชน์ก็อยากให้ส่งเสริมและอย่าปิดกั้น ที่สำคัญตนยังยืนยัน ไม่เลิกแจกยาและเดินหน้าแจกฟรี ส่วนใครไม่สนใจไม่เป็นไร แต่หากทราบว่ามีญาติของหมอแพทย์ แผนปัจจุบันที่ไม่เชื่อในสรรพคุณมารับจะไม่แจกให้เลย แต่จะให้เฉพาะชาวบ้านที่เต็มใจมาเท่านั้น ซึ่งในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ตนและทีมงานจะไปแจกยาในพื้นที่ จ.นราธิวาส 2,000 ชุด ชุดละ 10 เม็ด ส่วนกรณีที่มีความว่าตนเลิกแจกยานั้น ยืนยันหลังว่าไม่เป็นความจริง เพราะเชื่อมั่นในสรรพคุณ มีอีกหลายชีวิตที่ฝากความหวังไว้เพื่อรอมารับยาไปรับประทาน” นายแสงชัย กล่าวทิ้งท้าย
