เมื่อวันที่ 17 ก.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน บรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้หลั่งไหลกันเดินทางมาเที่ยวที่ อำเภอเขาค้อ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และภูทับเบิก ซึ่งเป็น 3 สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อชมทะเลหมอก สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น และชมทัศนียภาพความสวยงามทางธรรมชาติกันอย่างคึกคักหลายหมื่นคน โดยเฉพาะที่ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ทาง คสช. ใช้ยาแรงมาตรา 44 ตามคำสั่งที่ 35/2559 ให้ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ มีอำนาจทำการรื้อถอน โรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่บุกรุกพื้นที่ป่าภูทับเบิก ซึ่งทางจังหวัดเพชรบูรณ์ก็ได้นำแผ่นป้ายประกาศไปติดไว้บริเวณหน้ารีสอร์ท ที่คดีถึงที่สุดแล้วที่ศาลพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่จำนวน 13 ราย และ รีสอร์ทที่ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ตรวจสอบพบว่า โครงสร้างไม่แข็งแรงจำนวน 6 ราย โดยให้ทางเจ้าของรีสอร์ททำการรื้อถอนและออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน จนเป็นข่าวโด่งดังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
แต่ดูเหมือนว่าข่าวการสั่งรื้อรีสอร์ทภูทับเบิกภายใน 30 วัน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ นักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวภูทับเบิกมากยิ่งขึ้น โดยบรรยากาศล่าสุดที่ภูทับเบิก ได้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลกันเดินทางมา เพื่อสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น ชมทะเลหมอก ชมอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และชมทัศนียภาพความสวยงามทางธรรมชาติ กันอย่างคึกคักกว่า 1 หมื่นคน เม็ดเงินสะพัดกว่า 10 ล้านบาท จนรีสอร์ท ที่พักตากอากาศ และจุดกางเต้นท์ต่างๆ ซึ่งมีจำนวนเกือบ 100 แห่ง เกือบ 1,000 ห้อง ตั้งแต่วันที่ 16 – 20 ก.ค. ถูกจองเต็มแน่นไปหมด และทำให้ถนนทางขึ้นภูทับเบิกมีรถนักท่องเที่ยววิ่งขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

 

โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภูทับเบิกส่วนใหญ่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารีสอร์ทบนภูทับเบิกจะถูกรื้อหรือไม่ถูกรื้อ ก็แทบจะไม่มีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวมีปริมาณลดน้อยลง เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวภูทับเบิกส่วนใหญ่ ต้องการมาเพื่อสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น ชมทะเลหมอก และชมทัศนียภาพความสวยงามทางธรรมชาติ โดยเฉพาะไร่กระหล่ำปลี ไม่ได้ต้องการมาดูรีสอร์ทว่ามีความสวยงามขนาดไหน ส่วนข้อดีของการมีรีสอร์ทก็คือ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก และสร้างความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวที่ไม่นิยมการนอนกางเต้นท์เท่านั้น

 
ขณะที่นายมา วงศ์ทับเบิก อายุ 52 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านภูทับเบิก ซึ่งเป็นเจ้าของทับเบิกอินดี้รีสอร์ท หนึ่งในรีสอร์ท 19 รีสอร์ท ที่ถูกปิดป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน ให้สัมภาษณ์ว่า ปู่ ย่า และพ่อของตนมาอยู่ในพื้นที่ป่าภูทับเบิกและทำไร่ฝิ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 ก่อนที่จะมีการประกาศให้พื้นที่ป่าภูทับเบิกเป็นพื้นที่ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 ดังนั้นการที่ คสช. ใช้มาตรา 44 ให้ตนออกจากพื้นที่ ตนอยากจะถามว่าจะให้ตนไปอยู่ที่ไหน มาตรา 44 น่าจะใช้กับเรื่องใหญ่ๆ เช่น ความมั่นคงของประเทศชาติ ไม่น่าจะนำมาใช้กับผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูทับเบิก เพราะเดิมชาวเขาเผ่าม้งที่ภูทับเบิกก็ทำการเกษตรมาโดยตลอด

 
แต่เมื่อปี 2546-2547 ทางศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้มาแนะนำและส่งเสริมสนับสนุนให้ตนและชาวบ้านในภูทับเบิก หันมาทำรีสอร์ทแบบโฮมสเตย์ และฝึกให้เป็นมัคคุเทศก์ โดยการนำพวกตนและชาวบ้านไปศึกษาดูงานการทำรีสอร์ท ตามจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการท่องเที่ยวหลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ พัทยา ชลบุรี และภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งหลังจากศึกษาดูงานแล้ว พวกตนก็กลับมาสร้างรีสอร์ทแบบโฮมสเตย์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่นิยมมาพัก โดยอ้างเรื่องความปลอดภัยและความไม่สะดวกสบาย ตนและชาวม้งที่หันมาทำรีสอร์ทแบบโฮมสเตย์ จึงได้ไปศึกษาดูรีสอร์ทตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และกลับมาพัฒนาใช้ปูนทำการก่อสร้างรีสอร์ทดังกล่าว โดยผู้ประกอบการที่เป็นชาวม้งส่วนใหญ่ จะกู้เงินจาก ธกส.หรือยืมเงินจากลูกหลาน และญาติๆที่อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกามาทำ ส่วนการที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำการรื้อถอนรีสอร์ทของตนนั้น ตนก็จะไม่ขัดขืนหรือต่อต้านแต่อย่างใด

 

สำหรับภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า เป็นจุดสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนีย์ภาพความสวยงามทางธรรมชาติ และมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีแล้ว ยังเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย จึงทำให้มีบรรดานักท่องเที่ยวจำนวนมาก นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว และนอนพักผ่อนเพื่อสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และชมแสงดาวบนดินในยามค่ำคืน โดยช่วงคืนที่ผ่านมาอุณหภูมิต่ำสุดที่บนภูทับเบิก วัดได้ประมาณ 16-17 องศาเซลเซียส สร้างความประทับใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน