เมียแรงงานไทยเหยื่อไฟไหม้ดับที่ไต้หวันวอนรัฐบาล-บริษัทต้นสังกัดสามี ส่งศพกลับมาทำบุญในไทย เผยรับได้แม้สภาพศพจะเป็นอย่างไรก็ตาม ขณะนายอำเภอระบุรายนี้ไม่น่าห่วง เพราะไปทำงานอย่างถูกต้อง

กรณีการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานชินพูน โรงงานผลิตแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) รายใหญ่ของโลก ตั้งอยู่ที่เขตผิงเจิ้น เทศบาลพิเศษเถาหยวน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน เมื่อเวลา 21.26 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีตำรวจดับเพลิงเสียชีวิตถึง 5 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย และมีแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งหนึ่งใน 2 ราย คือนายเชิดศักดิ์ บุรัมสูงเนิน อายุ 42 ปี ชาวบ้านไม้แดง หมู่ 3 ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ไร้เสาหลัก! เมียแรงงานไทยเหยื่อไฟไหม้ไต้หวัน เปิดใจ ผัวไปทำงานหวังครอบครัวสบาย

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของน.ส.จันทา หวังอยู่ อายุ 42 ปี ภรรยานายเชิดศักดิ์ บุรัมสูงเนิน อายุ 42 ปี ชาวบ้านไม้แดง หมู่ 3 ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นยกสูง สภาพเก่า มีชาวบ้านมาให้กำลังใจครอบครัวนายเชิดศักดิ์ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน และหลายหน่วยงานเดินทางไปให้กำลังใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งจัดหางานจังหวัด, อบต.ในพื้นที่, กิ่งกาชาด เพื่อถามถึงความประสงค์ของญาติ รวมถึงแนวทางการช่วยเหลืออื่นๆ

น.ส.จันทา หวังอยู่ อายุ 42 ปี ภรรยานายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า สามีไปเดินทางไปทำงานเมื่อเดือนธันวาคม 60 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเดินทางไปเป็นครั้งที่ 2 สาเหตุที่ไปทำงานไต้หวัน เพราะมีคนชวนไปทำ โดยผ่านบริษัทจัดหางานถูกต้อง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 70,000 บาท หลังจากกลับมาครั้งแรกใช้หนี้ค่าเดินทางได้ และซื้อรถไถเดินตามได้ 1 คัน แต่ยังไม่มีเงินเก็บ จึงอยากจะไปทำงานอีกรอบ เพื่อหวังจะมีเงินใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ซึ่งมีหนี้อยู่กว่า 200,000 บาท แต่ไม่คิดว่าไปครั้งนี้สามีจะจากไปตลอดกาล

“ตอนนี้ถือว่าขาดเสาหลักของครอบครัว โดยเฉพาะต้องเลี้ยงดูลูกอีก 4 คน ตอนนี้อยากให้ทางการ บริษัทต้นสังกัด ช่วยเหลือนำศพสามีกลับมาฌาปนกิจในเมืองไทย ถึงแม้สภาพศพจะเป็นอย่างไรก็ตาม และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยประสานงานระหว่างประเทศ ถึงระเบียบและสวัสดิการต่างๆที่จะได้รับจากบริษัทและกระทรวงแรงงาน เพราะครอบครัวไม่มีความรู้” น.ส.จันทา กล่าว

ด้านนางเอียม โสรักนิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 กล่าวว่า ปกติครอบครัวนี้เป็นคนขยันทำมาหากิน มีที่นา 2 ไร่ ส่วนใหญ่จะออกไปรับจ้างทั่วไปในช่วงหลังฤดูทำนา แต่ก็ขัดสน จึงหาวิธีไปทำงานต่างประเทศ เพราะคิดว่าน่าจะได้เงินมากกว่าทำงานในเมืองไทย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะให้ความช่วยเหลือด้านการประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อนำศพกลับเมืองไทย

นายณรงค์ จันทร์ทอง นายอำเภอกระสัง กล่าวว่า แรงงานรายนี้ เป็นแรงงานที่เดินทางไปทำงานผ่านกระทรวงแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่น่าห่วงเกี่ยวกับการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างจะดำเนินการไปตามกฎและข้อระเบียบของกระทรวงแรงงาน ต่างจากแรงงานที่ไปทำงานแบบผิดกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน