วันที่ 4 พ.ค. ที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศรับยาหมอแสงว่า ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้ป่วยมะเร็งทั้งรายเก่าและรายใหม่มาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ยอดล่าสุดมีกว่า 3 หมื่นรายแล้ว โดยตลอดทั้งวันมีผู้ป่วยเก่าและผู้ป่วยใหม่ รวมทั้งญาติ ต่างทยอยเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมารับยาหมอแสงในวันที่ 5 พ.ค. ทำให้ที่พักที่ทางหน่วยงานราชการจังหวัดปราจีนบุรี จัดไว้ให้พักตามวัดต่างๆรวมทั้งที่พักของเอกชน ลานจอดรถเริ่มหนาแน่นโดยที่วัดบางคาง ซึ่งเป็นอีกวัดที่มีผู้ป่วยมาเข้าพักเป็นจำนวนมาก ทางวัดได้นำเอกสารแบบสอบถามของหมอแสงแจกให้ผู้ป่วย เพื่อสำรวจว่าหลังจากที่รับยาไปรับประทานแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยให้กรอกแล้วใส่ซองส่งไปทางไปรษณีย์ถึงสถาบันมะเร็งว่า มีความประสงค์จะให้หมอแสงแจกยาต่อไปหรือไม่

ส่วนบรรยากาศที่บ้านหมอแสง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาบริเวณถนนสายปราจีนบุรี-บ้านสร้าง เริ่มจะคึกคักพบว่ามีพ่อค้า แม่ค้า ต่างเตรียมสิ่งของ อาหาร รวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค ลานจอดรถ และสถานที่กางเต็นท์ที่จะมารองรับประชาชนที่มารับยาหมอแสงในวันที่ 5 พ.ค. คาดว่าจะมีประมาณเกือบแสนคน ด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 18.00 น. นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสงชัย หลังจากที่เดินทางไปแจกยาให้กับผู้มะเร็งที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่เครียดมาหลายวันแล้ว เราโดนโจมตีมาตลอดว่า สมุนไพรไม่สามารถยับยั้งมะเร็งได้ หรือเทียบเท่าสารเคมีไม่ได้ จริงๆ แล้วเราโดนกระแสต่อต้านหลายอย่าง แต่เราก็ห่วงพี่น้องประชาชนที่เป็นคนไข้ของเรา ที่ฝากความหวังไว้กับเรา ทีนี้เราก็สงสาร จริงๆ มีหลายส่วนออกมาตอบโต้ช่วย สำหรับสมุนไพรจะกินแล้วหายเหมือนสารเคมีนั้นไม่ได้ เราก็โดนโจมตี ไม่อยากให้คนไทยมาทะเลาะกันเพราะผม บางคนมองประชาชนที่มากินสมุนไพรเหมือนกับคนขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ที่โดนชักจูงเหมือนกับไม่มีการศึกษา บางทีคนไทยด้วยกันก็รับไม่ได้ หมอแสง กล่าวต่อว่า ธรรมะเคยฟังไหม ธรรมะของอริยะสงฆ์ของหลวงพ่อชา ท่านบอกว่าอีแร้งมันบินสูง แต่มันหิว มันก็โฉบมากินหมาเน่า ก็เปรียบเสมือนคนมีความรู้สูงๆ เมื่อมีกิเลสและตัณหาเข้ามา ความคิดต่ำๆ มันก็ออกมาเหมือนคนที่มีความรู้ต่ำๆ ไม่มีการศึกษาเลย แล้วเราคนไทยแยกกันหลายฝ่ายเหลือเกิน เราอยากให้คนไทยรักกัน ไม่อยากให้เอาผมมาอ้างว่าเอาคนเป็นมะเร็งเป็นตัวประกัน ไม่ใช่อย่างงั้น สิ่งที่ทำแล้วคนมีความสุขเราก็จะทำ เรื่องการมารับแล้ววันรุ่งขึ้นกลับไปแจ้งความอีก โดนผลกระทบอีกว่าทำให้คนสัญจรไปมาลำบาก เดือดร้อนตำรวจก็โดนด่าเยอะ เราจะเริ่มเปลี่ยนใหม่ หลังจากรับยาไปแล้วเดือนนี้เราจะไม่ลงทะเบียน เราจะเริ่มวันที่ 20 เลยของทุกเดือน

หมอแสง กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 20 เราจะเริ่มตั้งแต่ 7 โมงถึง 4 ทุ่ม ก่อนแจกวันพุธ พฤหัส และศุกร์ เราก็เป็น 24 ชั่วโมงเลย ส่วนวันเสาร์แค่เที่ยง คิดว่าเดือน มิ.ย.น่าจะสู้ ถ้าเกิดพี่น้องประชาชนคนมีความรู้ยังมั่นใจในตัวสมุนไพรตัวนี้ มีหนังสือไปที่กรมการแพทย์หรือสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์แผนไทยและทางเลือก ถ้าจะบอกว่ารักษาไม่ได้เหมือนกับคนโง่ เราไม่รู้จะว่าอย่างไร เราอยากให้เขียนหนังสือไป อย่างผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งที่บอกว่าสถาบันมะเร็งรับหมดทุกคนที่เป็นมะเร็ง คุณจะอยู่จนสิ้นใจเลยก็ได้ พูดคำนี้เราเหนื่อยแทน ใครมันจะนอนรอความตาย อะไรมีความหวังมันก็ดิ้นทั้งนั้น ผมแจกต่ออยู่แล้วเราได้กำลังใจหลายๆ ฝ่าย คนกินผู้ใหญ่เขียนหนังสือไปหน่อยว่าไม่ได้โง่อย่างที่คิดกัน ไม่ได้โดนชักจูงเราทะเลาะกันมาพอแล้วคนไทย

“อย่าให้ผมไปทะเลาะกับหมออีกเลยเราก็แค่ไอ้หมอพื้นบ้านคนเดียว ต่อสู้อยู่แค่คนเดียว ยังดีที่มีส่วนอื่นเข้ามาช่วยไม่เป็นไร เราแจกต่ออยู่แล้ว คนกินต่อไปเอาบัตรประจำตัวและข้าราชการใหญ่ๆ โตๆ เขียนลงมาหน่อยว่าได้กินยาสมุนไพรหมอแสงแล้วเป็นอย่างไร มันดีไหม เขียนชื่อมาหน่อย ไม่ใช่กินแล้วไปหลบอยู่หลังบ้าน หมอแสงยืนยันแจกต่อแน่” นายแสงชัยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน