เมื่อวันที่ 13 พ.ค. พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ รับรายงานจากพ.ต.ต.สุอารีย์ สาแก้ว สว.หน.สภ.ช่องสามหมอ ว่าหลังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจยาเสพติด (แบบบูรณาการ) บนถนนสาย 201 (ชัยภูมิ-ชุมแพ) ต.ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ พบรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น 330 E สีดำ ทะเบียนป้ายแดง มาตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขับเข้ามาที่ด่านตรวจยาเสพติด

ด้าน ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ จุลอักษร รอง สวป.ฯ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกัน แสดงอาการมีพิรุธคล้ายคนเสพยาเสพติดหรือมีสิ่งของผิดกฎหมายภายในรถ จึงเรียกให้ลงจากรถขอทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายโดยการตรวจปัสสาวะเบื้องต้น ผลการตรวจตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้ง 2 พบแถบการตรวจเมทแอมเฟตามีนแสดงเป็นผลบวก สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 จึงยอมรับว่าเสพยาไอซ์มาก่อนหน้านี้จริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องไปตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายภายในรถ โดยผู้ต้องหานำตรวจค้น เพื่อแสดงความบริสุทธ์จนเป็นที่พอใจของผู้ต้องหาจึงยินยอมให้ค้น ผลปรากฏพบยาบ้าและอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนปืนของกลาง ซุกซ่อนภายในรถยนต์ดังกล่าว

สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับว่า เป็นยาบ้าที่ร่วมกันมีไว้ในความครอบครอง และจะนำมาจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในเขตจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่างและภาคอีสาน โดยซื้อยาบ้ามาจากนายเบียร์ อายุ ประมาณ 20 ปี ไม่ทราบชื่อที่อยู่จริง บริเวณริมถนนทางหลวงสายเอเชีย เขตพระนครศรีอยุธยา มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลาประมาณเที่ยงคืน ในราคามัดละ 20,000 บาท (1 มัด มียาบ้า 2,000 เม็ด) รวมจำนวน 10 มัด ในราคา 200,000 บาท โดยได้จ่ายเงินให้นายเบียร์ก่อนไปแล้วเบื้องต้น จำนวน 70,000 บาท

ส่วนที่เหลือจำนวน 130,000 บาท จะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารให้ภายหลัง ต่อมาผู้ต้องหาเดินทางนำยาบ้าไปจำหน่ายให้กับลูกค้าชื่ออ้วน ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ที่ชานเมืองระหว่าง จ.นครสวรรค์-จ.พิจิตร โดยส่งให้นายอ้วนในราคามัดละ 40,000 บาท โดยเงินค่ายาบ้านายอ้วนจะโอนให้ในภายหลัง ส่วนยาบ้าที่เหลือจำนวน 6 มัด ผู้ต้องหาทั้ง 2 จะนำไปจำหน่ายให้กับผู้ค้ายาในจังหวัดชัยภูมิ ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน

โดยรับว่านำยาบ้ามาจำหน่ายให้ผู้ค้ายาบ้าในเขตจังหวัดชัยภูมิต่อเนื่อง 4-5 ครั้งแล้ว ก่อนที่ทางจนท.ช่องสามหมอ จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ ประกอบด้วย 1.นายธีรยุทธ หรือจูน กล้าแห่งงาน อายุ 31 ปี ต.หนองบัวใหญ่ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ และ 2.นายธีรชัย หรือที เพชรล้อมทอง อายุ 36 ปี ต.แก่งเริงจาน อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยของกลาง เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 12,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืนพกสั้น (กึ่งอัตโนมัต) ยี่ห้อกล๊อก จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 13 นัด

และสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามตรวจยึดทรัพย์สินตามพรบ.มาตรการฯ ล่าสุดเพิ่มเติมในวันนี้ได้เพิ่มเติมอีก ที่ประกอบด้วยรถยนต์ ยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW) รุ่น 330 E สีดำ (ราคามูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท) แหวนเพชร สีเงิน จำนวน 1 วง มูลค่าประมาณ 50,000 บาท, แหวนวงกลมคล้ายทอง จำนวน 2 วง มูลค่าประมาณ 5,000 บาท, พระเลี่ยมกรอบโลหะคล้ายทองจำนวน 3 องค์ มูลค่าประมาณ 3,000 บาท , สร้อยซึ่งเป็นวัตถุคล้ายทอง จำนวน 1 เส้น พร้อมจี้รูปช้าง มูลค่าประมาณ 16,000 บาท และตรวจสอบอายัดเงินในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชี 0722834404 ได้อีกมูลค่ากว่าประมาณ 1,000,000 บาท ซึ่งรวมขยายผลยึดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาบ้ารายนี้ได้อีก เบื้องต้นรวมมูลค่าสูงประมาณ 3,074,000 บาท

แจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาที่ 1 มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรเร่งด่วน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (สารไอซ์)โดยผิดกฎหมาย, แจ้งข้อหาให้นายนายธีรชัยฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ข้อหา ขับรถยนต์เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(สารไอซ์) โดยผิดกฎหมาย

ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและทรัพย์สินที่ได้ตรวจยึดตาม พรบ.มาตรการฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช่องสามหมอ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน