วันที่ 17 พ.ค. พ.ต.ท.ศุภสิทธิ์ มากผ่อง สวป.สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุมีผู้แต่งกายคล้ายพระภิกษุ กำลังปีนอยู่บนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 22 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของสำนักสงฆ์พุทธชยันตี โดยมีพื้นที่ 50ไร่ บริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์พบ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตฺตธฺมโม อายุ 55 ปี ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ครองผ้าจีวรพร้อมอัฐบริขารและอุปกรณ์เซฟตี้สำหรับปีนที่สูงขึ้นไปนั่งกลางเสา สูงจากพื้นประมาณ 20 เมตร โดยนั่งอยู่บนกระดานไม้ 1 แผ่น พร้อมกับน้ำใส่ถุงย่ามประมาณ 5-6 ขวด และผูกไว้อยู่กับเสา โดยมีการเรียกร้องเรื่องของที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวว่าถูกธนาคารยึดที่ไป โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมกว่า 6 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีท่าทีลงมาพูดคุยแต่อย่างใด

ระหว่างที่ทำการเจรจาอยู่นั้น พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา ได้เขียนข้อความใส่กระดาษก่อนจะโยนลงมาให้กับเจ้าหน้าที่ มีใจความว่า “ปัญหาของอาตมาคือเรื่องการหาเงินซื้อที่ดินสร้างวัดพุทธชยันตี แห่งนี้ เนื่องจากได้วางเงิน 500,000 บาทไปแล้วและได้มีเจ้าภาพถึงสามชุดแสดงเจตนาที่จะซื้อที่ดินถวายวัดถวายสร้างวัดแต่ทางธนาคารไม่ยอมเจรจาจนเจ้าภาพผ่อนตัวไปหมด วันนี้ เลยขึ้นมาพักผ่อนปฏิบัติธรรมด้านบน ถ้าธนาคารจะเมตตาให้โอกาสได้มีเวลาหาเจ้าภาพมาซื้อก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง เพราะว่าได้แสดงเจตนารับทราบมารับทราบมาแต่ต้นแล้ว เงิน 500,000 บาทที่รับไปญาติโยมได้อธิฐานสร้างวัด อาตมาได้ยินที่ญาติโยมคุยมาทุกเรื่องตัวอาตมาขอขึ้นมาปฏิบัติธรรม 13 วันตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 29 พ.ค. เป็นวันวิสาขบูชาขอให้คุณโยมทุกท่านสบายใจได้”

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐพล กล่าวว่า จากการแสดงพฤติกรรมดังกล่าวเชื่อว่า พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา น่าจะต้องการเรียกร้องไม่ให้สำนักสงฆ์ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่สามารถเจรจากันได้ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และจะติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มีปัญหาพิพาทกันเรื่องพื้นที่เข้ามาไกล่เกลี่ย ขณะนี้จึงได้กำลังดำเนินการนำรถกระเช้าขึ้นไปรับ แต่ในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถนำรถกระเช้าขึ้นไปได้เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางจำพวกต้นไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องวางแผนปีนขึ้นไปนำตัวลงมา ทั้งนี้ก็อยู่ระหว่างวางแผน

จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกสำนักสงฆ์ ทราบว่า พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นของเอกชนเข้ามาทำรีสอร์ต และติดหนี้ธนาคาร จนต้องปล่อยร้างมาได้ประมาณ 10 ปี แล้ว กระทั่งช่วง พ.ศ.2555 พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา ได้เข้ามาสร้างสำนักสงฆ์และนิมนต์พระ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายกัมพูชา สลับสับเปลี่ยนเวียนหน้ากันเข้ามาจำวัด จนทางธนาคารได้เข้ามาเจรจาขอให้สำนักสงฆ์ย้ายออกไป แต่ก็มีการไกล่เกลี่ยขออยู่ต่อเรื่อยมา จนพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เกิดความเครียดและบอกชาวบ้านว่า จะขึ้นไปนั่งปฏิบัติธรรมบนเสาส่งสัญญาณสัก 10 วัน ชาวบ้านหวั่นจะไม่ปลอดภัยจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ โดยที่ผ่านมาสำนักสงฆ์แห่งนี้เคยมีกระแสข่าวฮือฮามาครั้งหนึ่งเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว หลังจากมีการทำพิธีเผาศพไร้ญาติบนกองฟอน โดยไม่มีโลงศพห่อหุ้ม ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจให้มาตรวจสอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน