เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจากหมู่ที่ 12 ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร เนื่องจากถูกแก๊งทวงหนี้ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน) ข่มขู่ คุกคาม ใช้วาจาหยาบคายทวงถามหนี้ในการกู้ยืมเงิน ซึ่งหากชาวบ้านไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้รายวันได้ ก็จะถูกดุด่าและบังคับเพื่อให้หาเงินมาชำระหนี้รายวัน โดยมีนางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรรอง เป็นประธานรับเรื่อง

ต่อมานางณิทฐา มอบหมาย ให้พ.ต.ท.กฤติกร ปานผล รอง ผกก.ป.สภ.บึงนาราง ภ.จว.พิจิตร รอง หน.ชุดเฉพาะกิจฯ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ลงพื้นที่ เพื่อปิดล้อมการจับกุม แก๊งเงินกู้ดังกล่าวได้ ขณะขับขี่รถจักยานยนต์ สีขาวส้ม หมายเลขทะเบียน 1 กฐ1424 จังหวัดพิษณุโลก มาที่บริเวณ ถนนทางหลวงชนบท สายพจ. 3002 บ้านย่านยาว หมู่ที่ 12 ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงแสดงตนเข้าจับกุม ทราบชื่อภายหลังชื่อ นายอำพล พลบุตร อายุ 27 ปี ชาวอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด จำนวน 34,100 บาท และของกลางอื่นๆ รวม 16 รายการ

เจ้าหน้าที่บุกจับกุมแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าว นำเงินสดจากนายทุนรายใหญ่ในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุทัยธานี มาให้ผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ดังกล่าวกู้ยืม พร้อมกับเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน หากลูกหนี้รายใดผิดนัดชำระหรือเบี้ยวไม่ยอมชำระเงินต้น ดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ ก็จะถูกใช้กำลังประทุษร้ายต่อร่างกาย รื้อค้น ทุบทำลายทรัพย์ สิ่งของมีค่าภายในร้าน รวมถึงใช้วาจาบังคับขู่เข็ญบังคับ เพื่อให้ลูกหนี้เกิดความหวาดกลัวและยอมหาเงินมาจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้จะขยายผลถึงกลุ่มนายทุนเพื่อกวาดล้างตามนโยบายรัฐบาลต่อไป

เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีที่สภ.สามง่าม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีที่ สภ.สามง่าม จังหวัดพิจิตรโดย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้กระทำความผิดรับทราบ โดยกล่าวหาว่า “ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด”

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า กลุ่มแก๊งเงินกู้หัวใส ซึ่งปล่อยกู้ทางอินเตอร์เน็ตดอกเบี้ยโหด โดยใครกู้เงิน 1,000 บาท ภายใน 3 วันจะต้องเสียดอกเบี้ยถึง 400 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน