เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2, พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 และพ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.191 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และสน.ลุมพินี ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 83 เป้าหมายทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 44 ราย ประกอบด้วย

1.จับกุมในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต 11 ราย มีสัญชาติอินเดีย 6 ราย, อุชเบกิสถาน 2 ราย, ไนจีเรีย 1 ราย และกินี 1 ราย 2.จับกุมในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต 31 ราย แบ่งเป็นสัญชาติอินเดีย 9 ราย, เมียนมา 7 ราย, ลาว 5 ราย, กัมพูชา 4 ราย, ไนจีเรีย 3 ราย, บังคลาเทศ 2 ราย และอุชเบกิสถาน 1 ราย และ 3.จับกุมในข้อหาอื่นๆ 2 ราย เป็นสัญชาติไทย 2 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามยุทธการ ครั้งที่ 12 ทลายเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติและการท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต กลุ่มต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำผิดอาชญากรรมต่างๆ และยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง โดยในปัจจุบันพบมีการพัฒนาวิธีการกระทำความผิดให้มีความซับซ้อนและหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่รัฐ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานจาก บช.ก., ตม., กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิไนท์ไลท์ ในรอบเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบชาวอูกันดา 28 ราย พบเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ 3 ราย จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ลุมพินี จนสามารถออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดค้ามนุษย์ชาวอูกันดาได้ 6 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 1 ราย ส่วนอีก 5 ราย ได้หลบหนีกลับประเทศอูกันดาแล้ว ซึ่งจะประสานนำรายชื่อเข้าสู่ระบบเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศต่อไป ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และหน่วยงานต่างๆ จะทำการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจังต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน