ขนลุก! กองทัพ กิ้งกือ สีประหลาด บุกหมู่บ้าน ชาวบ้านโดนตัวแล้ว ผิวไหม้

กิ้งกือ ลำตัวมีสีเทาขาสีแดงเพลิง สีประหลาด จำนวนหลายตัวบุกโรงพยาบาลและบ้านเรือนประชาชน มีรายงานว่ามีผู้ไปสัมผัสกับกิ้งกือชนิดดังกล่าวแล้วมีอาการปวดแสบปวดร้อน ผิวไหม้ รวมทั้งระคายเคืองสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างมากในช่วงหน้าฝน

วันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางศุภารัสมิ์ ยศปัญญา พยาบาลวิชาชีพ ระดับชำนาญการ รพ.สต.บ้านหนองไม้เฝ้า หมู่ที่ 4 ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ว่าในพื้นที่พบ กิ้งกือ จำนวนมาก มีสีประหลาด และมีเด็กได้รับพิษบางราย ผิวไหม้ จากกิ้งกือมาทำการรักษา จึงรุดตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบ กิ้งกือลำตัวสีเทา มีเส้นสีแดงกลางหลัง ขาสีแดง ไม่ทราบสายพันธุ์ ขนาดความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร จำนวนมาก เดินออกมาจากป่าหลัง รพ.สต. เข้ามาภายในพื้นที่ จนเจ้าหน้าที่ต้องเก็บกวาดทำความสะอาดป้องกันไม่ให้กิ้งกือเดินเข้าไปในส่วนของสำนักงานและห้องรักษาผู้ป่วย ซึ่งยังพบว่ามีกิ้งกือบางส่วนได้จับคู่เพื่อผสมพันธุ์กัน รวมไปถึงไปกระจุกตัวกันภายในห้องน้ำและใต้อ่างล้างจานซึ่งเป็นที่ชื้นแฉะ นอกจากนั้นได้กระจายเข้าไปยังบ้านเรือนของชาวบ้านและโรงเรียน

กองทัพกิ้งกือบุกหมู่บ้านและโรงพยาบาล

กองทัพกิ้งกือบุกหมู่บ้านและโรงพยาบาล

นางศุภารัสมิ์ เปิดเผยว่า เป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้ว หลังเริ่มมีฝนตกชุกในพื้นที่ สัตว์พันขาชนิดนี้ได้ออกจากป่าเขาเข้ามาอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนและตามสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในชุมชนจำนวนมาก เพื่อหนีน้ำ จากนั้นก็เริ่มมีชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ถูกพิษ จนต้องเข้ามารักษาที่ รพ.สต. เมื่อสอบถามสาเหตุ ทำให้ทราบว่ามีการไปสัมผัสถูกเข้ากับลำตัว หรือ เดินเหยียบด้วยเท้าเปล่า อาการที่พบผู้ป่วยจะมีรอยไหม้ อักเสบบวมแดง บางรายปวดและมีไข้

กิ้งกือ สีประหลาด

พยาบาลสาวเตือนอันตรายจากกิ้งกือสีเทา

สำหรับการพบจำนวนมากในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าในพื้นที่หมู่บ้านมีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านธรรมชาติมาก อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีเด็กเล็ก ให้เฝ้าระวังอย่าให้บุตรหลานไปเล่นหรือสัมผัส แต่หากเผลอไปโดนและมีอาการดังกล่าว ควรให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

กิ้งกือ สีประหลาด

กิ้งกือสีเทากำลังผสมพันธุ์เพิ่มจำนวน

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเสนอข้อมูล “กิ้งกือมีพิษน้อยแต่ต้องคอยระวัง” โดย พญ.สาทริยา ตระกูลศรีชัย ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉินและศูนย์พิษวิทยา ระบุว่า สัตว์ชนิดดังกล่าวจะไม่ทำอันตรายต่อคน แต่จะปล่อยพิษเพื่อป้องกันตัว ไม่กัดแต่มีต่อมพิษ มีสารพิษที่มีกลิ่นเหม็น อาการเมื่อโดนพิษจะระคายเคืองผิวหนังและอาจพองเป็นต่มน้ำ อาการจะดีขึ้นเองแต่อาจใช้เวลาหลายวัน ถ้าสัมผัสโดนตาอาจระคายเคือง สำหรับการรักษานั้น ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและฟอกด้วยสบู่ หากสัมผัสโดนตาให้ล้าตาด้วยน้ำสะอาด ส่วนมากรักษาได้โดยรักษาตามอาการ ในบางรายแพทย์อาจใช้ยาเพื่อลดอาการปวดหรือเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น

อ้างอิงจาก “กิ้งกือมีพิษน้อยแต่ต้องคอยระวัง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน