โต๊ะครู ปอเนาะญาลันนันบารู ร้องสื่อมวลชน ขอความเป็นธรรม ถูกใส่ร้าย หาเป็นแหล่งค้ายาเสพติด แหล่งฟอกเงิน แหล่งผลิตระเบิด รวมทั้งแหล่งซ่องซุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ จนถูก ตัดงบ กระทบถึงขั้นอาจต้องปิด

โต๊ะครูแถลงเรียกร้องความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ ปอเนาะญาลันนันบารู ม.3 บ้านเกาะแลหนัง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา นายอับบาส บินอิบรอฮีม โต๊ะครู แถลงเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก กอ.รมน.4 ส่วนหน้า หลังจากในห่วงที่ผ่านมา ถูกตัดงบประมาณ ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหนักอาจต้องปิดตัวลง

นายอับบาส กล่าวว่า ปอเนาะญาลันนันบารู เป็นสถาบันศึกษาและปฏิบัติธรรมวิถีอิสลามเพื่อชีวิตใหม่ หรือเส้นทางใหม่ของผู้ติดยาเสพติด ก่อตั้งเมื่อปี2556 ในช่วง 4 ปี มีเยาวชนที่เคยมาฟื้นฟูและผ่านรักษาที่สถาบันมีจำนวนมากถึงพันกว่าคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดยาเสพติดยาบ้าและกระท่อมโดยใช้หลักศาสนาเข้ามาบำบัด

“เดิมสถาบันได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเงิน จากหน่วยงานสองหน่วยงานหลัก คือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า(กอ.รมน.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) แต่ทุกวันนี้ ภาครัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคง กลับมาระแวงเสียเอง กล่าวหาว่าที่นี้ เป็นแหล่งค้ายาเสพติด แหล่งฟอกเงิน แหล่งผลิตระเบิด รวมทั้งแหล่งซ่องซุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ทำให้มีการเปลี่ยนผู้ดูแล และถูกตัดงบประมาณ มีความพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่เป็นงบโครงการอบรมในส่วนของปอเนาะ ทั้งที่งบดังกล่าวนี้ ได้ถูกจัดสรรไว้เรียบร้อยแล้วจากรัฐบาล” นายอับบาส กล่าว

นายอับบาส กล่าวต่อว่า ขอแถลงการณ์เพื่อให้ทุกภาคส่วนทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรมของหน่วยงานราชการ ที่กระทำต่อปอเนาะแห่งนี้ รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป เช่น อาจจำเป็นต้องส่งเด็กติดยาเสพติดกลับคืนพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือจนถึงขั้นอาจต้องยุติการดำเนินงานของปอเนาะ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ครอบครัว ประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขั้นต้น

สถาบันปอเนาะขอเสนอทางออกของปัญหา ให้ทางราชการพิจารณากลไกคนทำงานหรือเจ้าหน้าที่ที่มีความเหมาะสม และสามารถที่จะเข้าใจ เข้าถึง พัฒนาพื้นที่นี้ได้จริงๆไม่มีนัยยะเงื่อนงำหรือแอบแฝง โดยเฉพาะที่เกิดกับสถาบันปอเนาะฯและเกิดขึ้นกับโครงการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง กับการช่วยเหลือแก้ปัญหายาเสพติด เช่นจิตอาสาในขณะนี้ ทั้งนี้ขอให้ผู้สนใจขอรับข้อมูลที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม ว่าเกิดอะไรขึ้นได้โดยตรงที่ปอเนาะเท่านั้น

งบประมาณที่เราได้รับเป็นงบค่าจัดอบรมเด็กนักเรียนหรือผู้บำบัด ที่มาบำบัด กับปอเนาะปัจจุบันมี 236 คน เราจะรับได้ไม่เกิน 300 คน ได้รับเป็นค่าอาหารค่าอบรม และเสื้อ นอกจากนี้เราจะได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครองอีกเดือนละ 2500 บาทต่อคน เป็นค่าอาหารและค่าเสื้อผ้าของใช้

ด้านจ.ส.อ.สมาน แวหลง เจ้าหน้าที่ทหารประจำค่ายอิงคยุทธ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก

จ.ปัตตานี และมาเป็นเจ้าหน้าที่ประจำปอเนาะญาลันนันบารู กล่าวว่า ขอยืนยันว่าข้อมูลที่ถูกใส่ร้ายทั้งหมดไม่เป็นความจริงไม่ใช่เรื่องจริงเลย ดูแลเด็กๆและคนที่นี้ทุกวันไม่มีพฤติกรรมอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง

ขณะที่นางซัลมา (ขอสงวนนามสกุล) ชาวนราธิวาส กล่าวว่า เป็นจิตอาสาของนราธิวาส พาเด็กๆมาบำบัดที่นี้หลายคนแล้ว ล่าสุดพาหลานมาบำบัดได้ 3 เดือน ก็เห็นผลดีขึ้น ชอบที่ใช้ศาสนามาบำบัด ส่วนค่าใช้จ่าย แรกเข้า 7 พันบาท จากนั้นทุกเดือนต้องจ่ายค่าอาหารค่าเสื้อผ้า 2500 บาทและอีก1200 บาทค่าขนมและค่าของใช้ รวมๆต้องจ่าย 3700 บาท

นอกจากนี้ เวลามาเยี่ยม ซึ่งศูนย์อยู่บนเกาะจะต้องนั่งเรือเข้าไป ผู้ปกครองก็จะต้องเหมาเรือเทียวละ 200 บาทเข้าไป ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการบำบัดต่อไป เพราะในพื้นที่ยาเสพติดเยอะคนอื่นๆจะได้เข้ามาใช้บริการ

ขณะเดียวกันหนึ่งในผู้เข้าร่วมบำบัดกล่าวว่า ขอมาบำบัด ครั้งแรกมา อยู่ได้ 40 วัน ก็หนีกลับ ครั้งนี้อยู่ได้ 3 เดือนแล้ว พยายามที่จะเลิกเพราะยาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี จึงอยากให้ศูนย์บำบัดเปิดให้บริการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน