เพื่อนพาซวยแนะแจ้งตร.ไทย บอกโดนปล้น สุดท้ายหนุ่มอังกฤษโดนจับแจ้งความเท็จ

เพื่อนพาซวย แนะแจ้งตร.ไทย บอกโดนปล้น ตร.ท่องเที่ยวสมุยจับหนุ่มอังกฤษ แจ้งความเท็จโดนชายไทย 3 คนชักมีดปล้นเอาโน๊ตบุ๊ก สุดท้ายจนมุมด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิด รับเสียงอ่อย ทำหายไปก่อนมาเมืองไทย เพื่อนเลยแนะมาแจ้งความเอาใบไปยื่นบริษัท

 

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พ.ต.ท.วรงค์ ถาปนา สว.สถานีตำรวจท่องเที่ยว 5 กก.2 บก.ทท.3 ร่วมกับ ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รองสว.บก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันจับกุมนักท่องเที่ยวชายอายุ 35 ปี สัญชาติอังกฤษ ข้อหาแจ้งความเท็จ หลังเข้าแจ้งความกับตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ว่าถูกคนร้ายเป็นชายไทย 3 คนปล้นทรัพย์ไปเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.วรงค์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นักท่องเที่ยวคนนี้มาแจ้งความว่า ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากโรงแรมตระเวนเที่ยวบนเกาะสมุยเพียงลำพัง แล้วถูกชายไทย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คันชักมีดออกมาแล้วพูดอะไรบางอย่าง ด้วยความกลัวจึงส่งกระเป๋าสะพายสีดำซึ่งภายในมีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กให้ไป เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 11 มิ.ย. จากนั้นเดินทางกลับที่พักแล้วมาแจ้งความอีกวัน

ตำรวจสอบนักท่องเที่ยวรายนี้ผ่านเล่าพบพิรุธหลายอย่าง จึงให้ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ร่วมกับตรวจคนเข้าเมืองเกาะสมุย ออกสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนพบว่าข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจากโรงแรมที่พักไม่ได้เป็นไปตามที่ได้กล่าวอ้าง จึงนำภาพมาให้ดูจนยอมรับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ที่กุเรื่องมาแจ้งความเพราะต้องการเอกสารรับแจ้งความของตำรวจไปแสดงต่อบริษัทที่ทำงานอยู่

เพื่อนพาซวยแนะแจ้งตร.ไทย

เพื่อนพาซวยแนะแจ้งตร.ไทย บอกโดนปล้น สุดท้ายหนุ่มอังกฤษโดนจับแจ้งความเท็จ

ขณะที่หนุ่มอังกฤษ ยอมรับผ่านล่ามว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อสถานบันการเงินที่ประเทศอังกฤษ ทำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กหายก่อนเดินทางมาประเทศไทย จึงได้ปรึกษากับเพื่อนที่ประเทศอังกฤษ และได้รับคำแนะนำว่าให้ไปแจ้งความกับตำรวจไทยว่าถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ไป แล้วเอาใบแจ้งความไปยื่นให้บริษัทเพื่อที่จะได้ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตอนนี้สำนึกผิดและขอโทษประเทศไทย คนไทย และตำรวจไทย ที่มาสร้างเรื่องไม่ดีในประเทศไทย ฝากเตือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆอย่างทำเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแบบนี้

จากนั้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานำตัวส่ง สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมส่งเรื่องให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน