อีเสือปืนสั้น จนมุม! บุกเดี่ยวจี้ทอง 5 บาท อุ้มลูก 5 ขวบไปก่อเหตุ ก่อนให้รอในรถ อ้างติดหนี้พนัน เปิดเงินไปใช้หนี้จนหมดบัญชี ซ้ำกลับสามีที่ทำงานอยู่ต่างประเทศรู้ จึงตัดสินใจก่อเหตุ
อีเสือปืนสั้น จากกรณีหญิงสาวบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้งชิงสร้อยม้อมือทองคำ จำนวน 3 เส้น น้ำหนักรวม 5 บาท เหตุเกิดที่ร้านทองธีรภัณฑ์ 4 หมู่ 6 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยคนร้ายเป็นหญิงสาว อายุ 25-30 ปี สวมกางเกงวอร์ม สวมเสื้อแจ็คเก็ตผ้าร่มสีดำ-ชมพู สวมหน้ากากอนามัยปิดหน้าได้เข้ามาในร้าน ทำทีเลือกซื้อสร้อยข้อมือทองคำ ก่อนจะควักปืนออกมาจี้พนักงานงาน แล้วขู่เอาเงิน ก่อนจะหยิบทองดังกล่าววิ่งขึ้นรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว “อีเสือปืนสั้น” โจรสาวสุดใจเย็น รอจน ตร.ออกจากร้าน ก่อน “บุกเดี่ยว” ปล้น! ร้านทอง (คลิป)
ความคืบหน้่ล่าสุดวันที่ 14 มิ.ย. พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.ขจร อบทอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน, พ.ต.ท.จิตติพร แสนพันดร สว.สส.ภ.4, พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา สว.สส.ภ.4 และกำลังจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 35 หมู่ 15 ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังจากสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุใสมาหลบซ่อนตัวอยู่ เนื่องจากพบรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กร 5157 อุดรธานี จอดอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยที่คนร้ายใช้ขับหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยกล้องวงจรปิดไปจนถึงบ้านต้องสงสัย
นาทีตำรวจบุกเข้าตวรจค้นบ้านผู้ต้องหา
จากการตรวจค้นพบ น.ส.วาสนา หรือนิด งามลุน อายุ 24 ปี เจ้าของบ้าน จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนบีบีกัน แบบลูกโม่ดัดแปลงใช้กระสุนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก เสื้อแขนยาวสีชมพู 1 ตัว กางเกงวอร์มขายาวสีดำ 1 ตัว ถุงมือ หน้ากากอนามัย ถุงผ้ามีอักษร “R” พิมพ์ด้านข้าง รองเท้าแตะ 1 คู่ และตั๋วจำนำ 2 ใบ ราคา 4 หมื่นบาท และ 3.4 หมื่นบาท โดย น.ส.วาสนา รับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม
รถเก๋งคันที่ใช้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.ขจร เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ลงพื้นที่พร้อมชุดสืบสวน แกะรอยคนร้ายตามกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ที่ตั้งร้านทอง พบว่าคนร้ายขับรถเก๋งมุ่งหน้าไปทางถนนหนองหาน-พิบูลย์รักษ์ และเข้าสู่เขต อ.เพ็ญ ช่วงบริเวณสามแยกบ้านสุมเส้า จากนั้นก็ไม่สามารถพบเห็นรถของคนร้าย จึงมั่นใจว่าคนร้ายน่าจะอยู่ในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร
ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ
หลังรายงานให้ พล.ต.ต.ยรรยง ทราบ และนำกำลังเข้าปูพรมตรวจค้นตั้งแต่ช่วงเช้า กระทั่งช่วงสายพบรถเก๋งต้องสงสัยจอดอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีตำหนิใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งเจ้าของบ้านยังเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาตรงกับภาพของคนร้าย เมื่อตรวจค้นบ้านก็พบของกลางดังกล่าว
ตำรวจควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จากการสอบสวน น.ส.วาสนา ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับสามี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 5 ขวบเศษ เรียนชั้นอนุบาล 2 โดยสามีไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล จะกลับเดือน ก.ค.- ส.ค.นี้ แต่เนื่องจากตนติดการพนันจนเป็นหนี้สินล้นตัว เงินในบัญชีก็ถอนออกมาจนหมดเพื่อใช้หนี้พนันจำนวนหลายแสนบาท จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ
ภสพวงจรปิดขณะใช้ปืนจี้ชิงสร้อยข้อมมือทองคำ
โดยไปดูลาดเลาในวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าร้านทองจะปิดในช่วงค่ำไม่มีคนมาก วันก่อเหตุได้ขับรถเก๋งไปกับลูกสาว โดยปล่อยให้ลูกสาวนั่งรอในรถ แล้วลงไปทำทีเป็นเลือกซื้อทอง ขณะนั้นได้มีตำรวจเข้ามาตรวจร้านทองพอดี จึงต้องทำเป็นดูทองต่อไปเรื่อยๆ หลังจากตำรวจออกจากร้านทองไปก็ลงมือจี้ ได้ทองไป 5 บาท ก่อนจะหลบหนีไปกบดานที่บ้าน แล้วนำทองไปขายในตัวอำเภอ กระทั่งถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
