ผจก.ร้าน เหล้าตกงาน ชวนเด็กเสิร์ฟออกตระเวนขโมยของตามแหล่งบันเทิง กวาดทรัพย์สินเพียบ ตร.ตามรวบเด็กเสิร์ฟได้แล้ว สารภาพเอาของที่ขโมยได้ไปขายและจำนำตามร้านต่างๆ เพื่อนำเงินมาซื้อยาเสพติด ตำรวจเร่งตามจับผกจ.ร้านอีกราย
ผจก.ร้าน / เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รอง ผบช.ภ.3 และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี (บก.ภ.จว.อุบลราชธานี) แถลงผลจับกุมแก๊งตระเวนโจรกรรมทรัพย์สินตามสถานบันเทิงและร้านจำหน่ายสุรา โดยยึดทรัพย์สินกลับคืน 16 รายการ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมแก๊งได้แล้ว 1 คน พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิ๊ก สีฟ้าขาว ทะเบียน คยษ704 อุบลราชธานี ที่ใช้เป็นพาหนะโจรกรรมอีก 1 คัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสุราและสถานบันเทิงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ว่ามีคนร้ายแอบเข้าไปโจรกรรมเอาโทรทัศน์ เครื่องมิกซ์เสียง เครื่องเพาเวอร์แอมป์ เครื่องขยายเสียง ลำโพง และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก ไปจากร้านชิวชิว, ร้านสแปลช, ร้านเยส และร้านสามใบเถา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี โดยทรัพย์สินที่คนร้ายโจรกรรมไปได้มากที่สุดคือ โทรทัศน์จอใหญ่ขนาด 32 นิ้ว ซึ่งทางร้านติดให้ลูกค้าไว้เตรียมให้ลูกค้าได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยคนร้ายอาศัยช่วงเวลาเช้ามืดเข้ามาโจรกรรมเอาไป
ต่อมา พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.(สส.) บก.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้ติดตามหาเบาะแสตามกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ จนพบผู้ต้องสงสัย คือ นายสมชาย แซ่เตียว อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ชุมชนบางกะดี่ แขวงเสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และนายอลงกรณ์ อมรสิน อายุ 21 ปี ชาวชุมชนโนนสมบูรณ์ ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
โดยในวันนี้ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายอลงกรณ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ผู้ต้องหา ขณะเดินอยู่ในซอยสุขสมบูรณ์ 2 บ้านดอนกลาง ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนนายอลงกรณ์ ให้การรับสารภาพว่า เดิมนายสมชายเป็นผู้จัดการสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุบลราชธานี ส่วนตนเองเป็นเด็กเสริฟอยู่ในร้านเดียวกัน ต่อมาสถานบันเทิงที่ทำงานเกิดขาดทุนและได้ปิดตัวลง จึงทำให้พวกตนตกงาน นายสมชายจึงมาชวนนายอลงกรณ์ให้ขับรถตระเวนดูลาดเลาตามแหล่งบันเทิงที่จะเข้าไปลักทรัพย์
นายอลงกรณ์ ให้การอีกว่า เมื่อร้านปิดก็จะอาศัยช่วงเช้ามืด ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กเฝ้าร้านหลับสนิทแอบเข้าไปใช้เครื่องมือถอดเอาโทรทัศน์และอุปกรณ์เครื่องเสียงไปขายตามร้านรับซื้อและรับจำนำของเอกชนในตัวเมือง แล้วเอาเงินมาแบ่งกันใช้และซื้อยาบ้ามาเสพ เนื่องจากทั้งคู่ติดยาเสพติด
จากนั้น ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน หรือรับของโจร และจะได้ติดตามจับตัวนายสมชายผู้จัดการร้านเหล้าที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป