‘เปรมชัย-เมีย’ ปฏิเสธครอบครองงาช้างแอฟริกา หลังศาลนัดตรวจหลักฐานครั้งแรก ก่อนเลื่อนตรวจหลักฐานไปบ่ายครึ่ง 3 ก.ย. หลังทนายติดภารกิจ ส่วนคดีครองครองอาวุธปืนก็ปฏิเสธ

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานครั้งแรก คดีครอบครองงาช้างแอฟริกา หมายเลขดำ อ.1143/2561 พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางคณิตดา กรรณสูตร, อายุ 64 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 64 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และน.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี คนใกล้ชิดของภรรยานายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,

นายเปรมชัยเดินทางกลับจากศาล

ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27, 27 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน เมื่อวันที่ 11 เมษายน 61 บรรยายพฤติการณ์จำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 61 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)

ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาที่ 49/2561 เข้าค้นบ้านเลขที 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ของนายเปรมชัย บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 พบงาช้างป่าแอฟริกา 2 คู่ (4 กิ่ง) ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นของที่มีผู้บังอาจลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร และมิได้ผ่านช่องทางศุลกากร มิได้เสียภาษีศุลกากรโดยถูกต้อง ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 58 นางคณิตดา และน.ส.วันดี ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่ง ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมีน.ส.วันดี เป็นพยานถูกต้องทุกประการ

ซึ่งหลังจากยื่นฟ้องทั้ง 3 คน ได้รับประกันตัวไปคนละ 300,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเฉพาะนายเปรมชัย จำเลยที่ 2 ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ขณะที่วันนี้จำเลยทั้ง 3 เดินทางมาศาลตามนัด พร้อมกับทนายความ เมื่อถึงเวลานัดศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้อง ให้จำเลยทั้ง 3 ฟังแล้ว สอบคำให้การ ซึ่งจำเลยทั้ง 3 คน ยืนกรานให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ดีในการตรวจหลักฐานว่าแต่ละฝ่ายจะนำสืบพยานกี่ปากนั้น ปรากฏว่า วันนี้ทนายความของภรรยานายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ไม่ได้มาศาล โดยมอบอำนาจให้ทนายความจำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องพร้อมแถลงศาลแทนขอเลื่อนนัดประชุมตรวจพยานหลักฐานวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจากทนายความจำเลยที่ 1 ติดภารกิจไปเป็นพิธีกรสายด่วนรัฐสภา ที่นัดไว้ก่อนแล้ว ซึ่งศาลสอบถามอัยการโจทก์แล้วไม่คัดค้านให้เป็นดุลยพินิจศาล ขณะที่ศาลสอบถามทนายความจำเลยที่สาม ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจมาจากทนายจำเลยที่ 1 อีกครั้ง ก็แถลงยืนยันว่า หากนัดหน้าทนายความจำเลยที่ 1 จะไม่สามารถมาศาลได้ก็ให้ทนายความจำเลยที่ 3 ดำเนินการแทน โดยจะไม่ขอเลื่อน

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นเหตุจำเป็นจึงให้เลื่อนนัดพร้อม เพื่อตรวจพยานหลักฐานแต่ละฝ่ายอีกครั้ง ในวันที่ 3 ก.ย. นี้ เวลา 13.30 น.

ขณะที่วันเดียวกันนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลอาญาก็นัดตรวจพยานหลักฐานคดี “นายเปรมชัย” ครอบครองอาวุธปืนไรเฟิลโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเปรมชัย ในคดีหมายเลขดำ อ.1144/2561 ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เมษายน61 ที่ผ่านมา ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 61 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.

โดยขณะที่ นายเปรมชัย กำลังเดินทางกลับจากศาล ก็เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า “คดีครอบครองอาวุธปืนก็ให้การปฏิเสธด้วย” ส่วนคดีถูกกล่าวหาทุจริตให้สินบนเจ้าหน้าที่นั้น นายเปรมชัย ระบุเพียงว่า “ยังไม่ได้ขึ้นศาลเลย ก็รอขึ้นศาลต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน