ครูประถม-มัธยมบุรีรัมย์ที่ถูกธนาคารยัดหนี้ตั้งแต่รายละหลักแสนถึงล้าน บางรายนำเงินสดไปปิดบัญชีแต่ จนท.ไม่นำเงินเข้าระบบ นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมคลิปเสียงการสนทนากับเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน หลังผ่านมากว่า 2 เดือนเรื่องไม่คืบทั้งหวั่นธนาคารไม่รับผิดชอบ

201612021821291-20041019172247

จากกรณีครูโรงเรียนในจ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่อว่าถูกธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาธานีบุรีรัมย์ ยัดหนี้ให้รายละกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ไม่นำเงินที่ครูกู้เพิ่มไปตัดหนี้เก่าตามระบบ ทำให้ครูหลายคนต้องเป็นหนี้ 2 สัญญา ทั้งที่ตามระเบียบเงินในสัญญาใหม่ จะต้องถูกตัดไปชำระสัญญาเก่า ผู้กู้จะได้รับเงินโอนเข้าเพียงส่วนต่างที่กู้เพิ่มเท่านั้น ทำให้กับครูที่จ.บุรีรัมย์ต่างเดือดร้อน เพราะถูกธนาคารหักเงินในบัญชี ต่อมามีครูในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับความเดือดร้อนลักษณะเดียวกัน 2 คน ได้รับใบแจ้งหนี้ 2 รายการ ทักท้วงกลับถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารบ่ายเบี่ยง ล่าสุดธนาคารกรุงไทยชี้แจงว่า กำลังให้สำนักงานใหญ่ตรวจสอบ และย้ายพนักงานที่ถูกร้องเรียนออกจากพื้นที่แล้ว พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับลูกค้าและพนักงาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว กรุงไทยสั่งย้ายพนง.ถูกครูร้องเรียนแล้ว ตั้งทีมสอบ ยันให้ความเป็นธรรม-รับผิดชอบความเสียหาย

201612021821296-20041019172247

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ข้าราชการครูโรงเรียนประถมใน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 และข้าราชการครูโรงเรียนมัธยม อ.ประโคนชัย สังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 รวม 7 คน นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินและชำระหนี้กับธนาคารแห่งหนึ่ง พร้อมคลิปเสียงสนทนากับเจ้าหน้าที่ธนาคารคนที่ทำธุรกรรมสินเชื่อให้กับครู เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์

201612021821292-20041019172247

โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่สาขาถนนธานี ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้ฉ้อโกงเงินเนื่องจากไม่นำเงินสดที่ครูนำไปชำระหนี้หรือปิดบัญชีเงินกู้ เข้าในระบบธนาคาร ทั้งไม่นำเงินที่ครูทำเรื่องกู้เพิ่มไปตัดหนี้เก่าตามระบบ ทำให้มีหนี้ 2 สัญญา ตั้งแต่รายละหลักแสนถึงหลักล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการครูเป็นอย่างมาก เพราะต้องถูกยัดหนี้โดยไม่รู้ตัวเป็นจำนวนมาก

โดยสาเหตุที่ต้องมาแจ้งความ เนื่องจากหลังทราบเรื่องก็ได้ร้องเรียนกับทางธนาคารถึงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว และทางธนาคารก็รับปากจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ภายใน 30 วัน แต่เวลาผ่านมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและทางธนาคารจะไม่รับผิดชอบตามที่รับปากไว้ หลังจากนำหลักฐานเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว ยังพากันเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์จังหวัดบุรีรัมย์ด้วย

นางศรุดา ประทุมภาพ ครู คศ.1 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ที่ตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความในครั้งนี้ เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและทางธนาคาร หรือเจ้าหน้าที่ที่ยักยอกฉ้อโกงเงินไปจะไม่รับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ทราบว่าทางธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับครูไม่หยุดการเคลื่อนไหว ร้องเรียน หรือกระทำใดๆ บอกเพียงว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ทั้งที่เวลาผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว

“ครูไม่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมและทางธนาคารจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามที่รับปากไว้ แต่ก็อยากวิงวอนให้ทางธนาคารเห็นใจและเร่งรัดสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเร่งคืนสถานะให้กับครูที่ถูกยัดหนี้โดยเร็วด้วย เพราะตอนนี้ครูทุกคนที่ตกอยู่ในสถานะเดียวกันก็รู้สึกไม่สบายใจและวิตกกังวลมาก” นางศรุดา กล่าว

ขณะที่ทางตำรวจเบื้องต้นก็ได้รับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจะประสานข้อมูลกับทางธนาคารเพื่อขอเอกสารสัญญาการกู้จากธนาคารด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน