อนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด มีมติเอกฉันท์ ไล่ออก ผอ.ฉาว คบนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เตรียมชงผู้ว่าฯโคราช พิจารณา 12 ก.ค.นี้ เผยพิจารณาด้วยความยุติธรรมรอบด้าน หาหนทางดูแลเด็กให้ศึกษาต่อจนจบ
จากกรณีคณะกรรมการสถานศึกษาและคณะครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา นำหลักฐานร้องเรียนผู้สื่อข่าว หลังสุดทนกับพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียน ที่เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งได้เพียง 3 เดือน มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ลักษณะคบหากันเป็นแฟนอย่างลับๆ มีการพาเด็กหญิงไปเที่ยวแบบ 2 ต่อ 2 โดยมีหลักฐานภาพไลน์ที่แช็ตพูดคุยกันทางไลน์ในเชิงชู้สาว ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่อว่า “ที่รัก” และมีภาพถ่ายกอดคอกันอย่างสนิทสนม นอกจากนี้ผอ.ยังเรียกน้องนักเรียนหญิงว่า “เมีย” อีกด้วย ซึ่งเป็นข่าวเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา
ผอ.ฉาว / ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ห้องประชุมศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา (อกศจ.) โดยมี พล.อ.ดร.มารุต ลิ้มเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา และคณะอนุกรรมการ รวม 9 คน อาทิ นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา, นายทอง วิริยะจารุ, นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน, นายอนันต์ เพียรเกาะ และนายพิสิษฐ์ ชดกิ่ง เป็นต้น ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา (กศจ.) ที่มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธาน
โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีการถกกันอย่างรอบครอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมอย่างที่สุด เบื้องต้นในชั้นของคณะอนุกรรมการฯ ชุดใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์เสนอว่า ให้ลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก ส่วนประเด็นอาญา หรือหากมีเรื่องอย่างอื่นก็ว่าไปตามกฎหมาย ในส่วนนี้คือการหาหนทางดูแลเด็ก เนื่องจากเด็กถือว่ายังเป็นผู้เยาว์วัยอยู่ และให้เด็กได้ศึกษาให้จบ ตรงนี้คือสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด
พล.อ.ดร.มารุต กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นเรื่องของการลงโทษวินัยร้ายแรง ผอ.คนดังกล่าว ให้ไล่ออก คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาให้ความยุติธรรมด้วยความรอบด้านรอบครอบอย่างดีที่สุด ซึ่งดูจากเหตุและผลการสอบสวนที่ออกมา ก็ว่ากันไปตามนั้น และยังมีคณะกรรมการสอบสวนที่เขตพื้นที่การศึกษาฯ ตั้งขึ้น ได้นำมาพิจารณาประกอบการสอบสวนและคำให้การของแต่ละคนที่ศึกษาธิการจังหวัดตั้งลงไปสอบสวน แล้วนำเข้ามาพิจารณาในชั้นของคณะอนุกรรมการชุดใหญ่วันนี้
พล.อ.ดร.มารุต กล่าวต่อว่า ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก จากนี้ไปก็จะเสนอ กศจ. ที่มี ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานกรรมการฯ ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ในส่วนของคณะอนุกรรมการฯ ได้ข้อสรุปออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งถือว่าในชั้นของคณะอนุกรรมการฯ จบเพียงแค่นี้ ส่วน กศจ.จะตัดสินใจอย่างไรเป็นดุลยพินิจที่ประชุมใหญ่ต่อไป