เปิดตัวยอดบุษบกเมรุชั่วคราวพระราชทานเพลิงศพ‘หลวงพ่อคูณ’ แกะสลักด้วยแก่นต้นคูณ สีทองเหลืออร่าม ฝีมือช่างศิลป์อีสาน พร้อมเปิดโอกาสให้ชาวพุทธร่วมปิดทองถึงสิ้นเดือนพ.ย.

แปะแผ่นทองคำเปลว

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค. รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของทีมช่างศิลป์ และเหล่านักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข.ที่ยังคงเร่งจัดทำเมรุชั่วคราวในงานพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่มีกำหนดการในงานพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 ม.ค.2562 บริเวณภายในพุทธมณฑลอีสาน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยคณะทำงานที่ประกอบด้วยช่างศิลป์ จากแขนงต่างๆ รวมทั้งกลุ่มนักศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์, สถาปัตยกรรมศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์ และผู้ที่ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณ ต่างยังคงหมุนเวียนกันมาดำเนินการก่อสร้างองค์ประกอบของเมรุชั่วคราว ที่กำหนดไว้ให้เป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกที่มีความสูงประมาณตึก 6 ชั้น

บุษบก 5 ยอดสีทองอร่าม

ขณะเดียวกันบริเวณภายในสถานที่ก่อสร้างเมรุชั่วคราวของหลวงพ่อคูณนั้น ยังคงจัดสร้างพลับพลาสีขาว ไว้ภายในบริเวณโดมก่อสร้างพญานาค ซึ่งพลับพลาดังกล่าวนี้นั้น คณะศิลปกรรมศาสตร์, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ จัดทำขึ้นโดยเป็นสีขาวทั้งหมด ภายในประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อคูณขนาดเท่าองค์จริง ด้านหลังเป็นฉากสัตว์ป่าหิมพานต์และองค์ประกอบของเขาพระสุเมรุ รวมทั้งภาพวาดนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง

ลูกศิษย์กราบสักการะและร่วมปิดทอง

ที่สำคัญยังคงอัญเชิญยอดบุษบก 5 ยอด ที่แกะสลักจากแก่นไม้ต้นคูณหรือต้นราชพฤกษ์ ลงยาสีทองเหลืออร่าม ซึ่งถือเป็นไฮไลต์และจุดสูงสุดของบุษบกในงานพระราชพิธีดังกล่าว โดยคณะทำงานอัญเชิญมาประดิษฐานไว้เพื่อให้พุทธศาสนิกชน และผู้ที่ให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณนั้น มากราบสักการะและร่วมปิดทองเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเริ่มเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปนั้นปิดทองยอดบุษบกแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. กล่าวว่า ยอดบุษบกทั้ง 5 ยอดที่อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในพลับพลาภายในสถานที่ก่อสร้างเมรุชั่วคราวของหลวงพ่อคูณนั้น เปรียบเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะนอกจากการประดิษฐานพลับพลาแล้วยังคงนำรูปเหมือนของหลวงพ่อคูณ ขนาดเท่ากับองค์จริงมาประดิษฐานไว้คู่กัน เพื่อให้ทีมงานที่มาปฎิบัติหน้าที่ได้กราบไหว้และขอขมา รวมทั้งการให้ผู้ที่ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณนั้นได้มากราบไหว้ มาปิดทองยอดบุษบก

ซึ่งยอดบุษบกที่แกะสลักขึ้นนั้นทำจากแก่นไม้ของต้นราชพฤกษ์หรือต้นคูณ ที่มีขนาดความสูงประมาณ 1.2 เมตร ลงยาสีทอง ซึ่งยอดบุษบกนี้นั้นมีสีทอง ซึ่งเป็นเฉดสีเดียวเท่านั้นของนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกที่ทั้งตัวนั้นเป็นสีขาว การใช้สีทองนั้นเปรียบเสมือนความอุดมสมบูรณ์ และการมีจิตเมตตาของหลวงพ่อคูณที่มีต่อลูกศิษย์ลูกหา ที่มีอยู่ทั่วทั้งประเทศและในหลายประเทศทั่วโลก

“วันนี้มข.เปิดให้ทุกคนนั้นมากราบรูปเหมือนหลวงพ่อ ได้มาปิดทองยอดบุษบกที่ประดิษฐานอยู่ภายในพลับพลาแห่งนี้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะศิลปกรรมได้จัดเตรียมแผ่นทองคำเปลวและดอกบัว ไว้สำหรับการกราบสักการะและร่วมปิดทอง โดยงดการจุดธูป-เทียน โดยเด็ดขาด โดยการปิดทอดยอดบุษบกนั้นจะสิ้นสุดในเดือนพ.ย.นี้เท่านั้น เพราะหลังจากนั้นยอดบุษบกทั้ง 5 ยอดจะถูกอัญเชิญไปประดิษฐานบนยอดบุษบกในเมรุชั่วคราวที่มีความสูงประมาณตึก 6 ชั้น” รศ.ดร.นิยม กล่าว

คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข. กล่าวต่อว่า การดำเนินการก่อสร้างเมรุชั่วคราว ที่กำหนดไว้ให้เป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก ขณะนี้การดำเนินงานนั้นมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยช่างศิลป์หลักในงานปั้น งานเขียน และกลุ่มงานต่างๆนั้นลงมือทำกันทุกวันโดยมีนักศึกษานั้นคอยดำเนินการอยู่ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ทั้งการปั้นสัตว์ป่าหิมพานต์ 32 ตัว นาค 16 ตัว แต่สิ่งที่กังวลอยู่ในขณะนี้นอกจากสภาพดินฟ้าอากาศแล้ว คือทีมช่างศิลป์จิตอาสา ที่มข.ยังคงเปิดรับสมัครคณะทำงานในการสร้างตัวหกหัสดีลิงค์ ที่จะสร้างด้วยกระดาษสีขาวทั้งตัว

ในส่วนนี้นั้นมีรายละเอียดต่างๆเยอะมาก ดังนั้นจิตอาสา ที่ต้องการจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานถวายแด่หลวงพ่อคูณขอให้แสดงความจำนงค์ หรือลงทะเบียนได้ที่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ หรือบริเวณสถานที่ก่อสร้างเมรุชั่วคราว ริมบึงสีฐานแห่งนี้ เพื่อที่จะกำหนดงานต่างๆให้ได้ในภาพรวม อย่างไรก็ตามการก่อสร้างเมรุชั่วคราวทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ โดย มข.จะประกอบพิธีบวงสรวงอีกครั้งก่อนนำไปติดตั้งที่พุทธมณฑลอีสานต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน