ยุติภารกิจกู้ร่างผู้สูญหายเรือล่มแล้วเนื่องจากคลื่นลมเเรงเป็นอันตรายต่อทีมดำน้ำ รองเสธฯทร.ภ.3 สั่งปรับแผนเตรียมอุปกรณ์ดูดทรายลงเรือลำเดียว เผยศพยังอยู่จุดเดิม

จากกรณีเรือนักท่องเที่ยวฟีนิกซ์ ไดร์วิ่ง บรรทุกผู้โดยสาร รวมไดมาสเตอร์ จำนวน 97 คน ล่มบริเวณเกาะเฮ ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้รอดชีวิต 42 ราย เสียชีวิต 45 ราย อีก 2 รายสูญหาย ล่าสุดทีมนักดำน้ำไทย-จีนลงดำค้นหาร่างที่ติดอยู่ใต้ซากเรือ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว อัพเดตเหตุเรือล่มภูเก็ต 45ชีวิตเซ่นทะเลคลั่ง! ลุยกู้ซากเรือจมทะเลลึก

ทีมนักดำน้ำ

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การกู้ร่างผู้สูญหายจากเหตุการณ์เรือล่มที่จ.ภูเก็ต นักประดาน้ำทัพเรือ (ทีมสคูบ้า) ลงเรือยางไปยังจุดเรือจม เพื่อดำลงไปผูกเชือกขนาดใหญ่กับตัวเรือเพื่อให้ทีมดำน้ำ Surface ไต่ลงไปได้ จากนั้น เวลา 13.00 น. นักประดาน้ำทัพเรือ (ทีมสคูบ้า) ที่ลงเรือยางไปยังจุดเรือจมเพื่อดำลงไปผูกเชือกไกด์ไลน์ ขนาดใหญ่กับตัวเรือเพื่อใช้เป็นไกด์ไลน์ให้ทีมดำน้ำ Surface ไต่ลงไปได้นั้น เดินทางกลับมาที่เรือหลวงทองหลาง เเจ้งว่าสามารถผูกเชื่อกไกด์ไลน์เส้นใหม่สำเร็จ

ยุติการกู้ซากใต้เรือ

ต่อมาเวลา 13.20 น. นาวาเอกธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติในการดำน้ำกู้ร่างผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สภาพคลื่นลมเเรงโดยคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ทำให้เป็นอุปสรรค ต่อการปฏิบัติงานของทีม Surface เนื่องจากไม่สามารถหยุดเรือหลัก (เรือหลวงทองหลาง) ให้นิ่งได้ เสี่ยงจะพัดออกจากจุดที่กำหนด และยังมีแนวโน้มที่รุนเเรงขึ้นในช่วงบ่าย

เรือฟีนิกซ์จมก้นทะเล

ขณะเดียวกันไม่สามารถนำเรือหลวงปันหยี ที่เป็นเรือให้กำลังของปั๊มลมเพื่อดูดทรายใต้น้ำรอบตัวเรือที่จม เข้าเทียบกับเรือทองหลางได้ จึงต้องเปลี่ยนเเผนที่จะนำอุปกรณ์ให้กำลังลมมาอยู่ในเรือลำเดียวคือเรือหลวงทองหลาง เเต่จะต้องเข้าจอดเทียบท่าเพื่อเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดมาลงเรือทองหลาง ซึ่งต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยก จึงจำเป็นต้องยุติภารกิจการกู้ร่างผู้สูญหายและเดินทางกลับเข้าฝั่ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ประดาน้ำที่ลงไปยืนยันว่าร่างผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในจุดเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน