กรมราชทัณฑ์ จัดโครงการ จิตอาสา ราชทัณฑ์ มุ่งพัฒนาชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยให้เรือนจำทั่วประเทศ จัดนักโทษออกทำงานพัฒนาทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ
ราชทัณฑ์ จัดโครงการจิตอาสา ราชทัณฑ์ มุ่งพัฒนาชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ร.10
จิตอาสา / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่บริเวณถนนภูมิเวท อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “จิตอาสา ราชทัณฑ์ มุ่งมั่นพัฒนาชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร”
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์จัด “โครงการจิตอาสา ราชทัณฑ์ มุ่งมั่นพัฒนาชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” โดยให้เรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขัง จัดส่งเจ้าหน้าที่และนักโทษเด็ดขาด หรือผู้ต้องกักขัง ที่ได้รับอนุมัติจ่ายออกทำงานสาธารณะ หรือได้รับอนุญาตให้ออกทำงานนอกเรือนจำ ออกไปพัฒนาทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ขุดลอกคูคลอง กำจัดผักตบชวา วัชพืช และขยะในแหล่งน้ำสาธารณะ
ผู้ต้องขัง จิตอาสาลอกท่อบริเวณถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ดำเนินการในช่วงเดือน ก.ค.นี้ กำหนดวัน เวลา ตามความสะเหมาะสม โดยกรมราชทัณฑ์ ได้จัดพิธีเปิดโครงการดังกล่าวพร้อมกันทั่วประเทศ
ผู้ต้องขังช่วยกันลอกท่อ
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ได้คัดเลือกนักโทษ ที่ผ่านการพัฒนา พฤตินิสัยในเรือนจำ มีความประพฤติดีและต้องโทษมาระยะหนึ่ง ให้ได้มีโอกาสบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม โดยในวันนี้มีเรือนจำและทัณฑสถาน ร่วมส่งนักโทษเด็ดขาด 180 คน ประกอบด้วย เรือนจำกลางคลองเปรม 40 คน เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 40 คน เรือนจำพิเศษธนบุรี 20 คน เรือนจำพิเศษมีนบุรี 30 คน
ผู้ต้องขังช่วยกันลอกท่อ ทำความสะอาด
ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง 30 คน และเรือนจำจังหวัดนนทบุรี 20 คน โดยให้ออกบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ พัฒนาทำความสะอาดท่อระบายน้ำถนนภูมิเวท ระยะทาง 2 กิโลเมตร ขุดลอกคูคลอง กำจัดผักตบชวา วัชพืช และขยะในแหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของเทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ผู้ต้องขังช่วยกันพัฒนาคูคลอง
“อีกทั้ง ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักโทษได้ทำคุณประโยชน์แก่สังคม เกิดจิตสำนึกที่ดีต่อตนเอง สร้างการยอมรับและการให้อภัยจากสังคมเมื่อพ้นโทษแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
