หัวโจก อุ้มสาวเรียกค่าไถ่ หน้าจวนผู้ว่าฯ เมืองน้ำดำ โผล่มอบตัวแล้ว ปฏิเสธลั่น ไม่ใช่แก๊งยา แต่รับว่ารับจ้าง เจ้ปู เจ้าของรีสอร์ท ในจ.มหาสารคาม มาทวงหนี้ที่เหยื่อติดค้างอยู่ ตร.กาฬสินธุ์ เค้นสอบ แจ้ง 6 ข้อหา เตรียมคุมตัวส่งฝากขัง

หัวโจก

ภาพขณะลงมือ(แฟ้มภาพ)

จากกรณีเหตุการณ์คนร้าย 5 คนร้ายก่อเหตุกระชากผมอุ้ม น.ส.เอ (นามสมมุติ) บริเวณหน้าจวนผวจ.กาฬสินธุ์ ก่อนนำไปกักขังไว้ที่โกดังร้างข้างถนนทางเข้าตัว อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ก่อนโทรศัพท์ไปหาพ่อ แม่ และญาติของน.ส.เอ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ตัวจำนวน 350,000 บาท

หัวโจก / โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สามารถจับกุมตัวนายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือเปรี้ยว อายุ 23 ปี, นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง หรือ แป๋ม อายุ 20 ปี และนายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือ โชค อายุ 23 ปี ซึ่งเป็น 3 ใน 5 คนร้าย และคุมตัวไปทำแผนตรงที่เกิดเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

หัวโจก

คุมตัวดำเนินคดี

อ่านข่าว : คุมแก๊งยา ทำแผนฯ อุ้มสาว หน้าจวนผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ สั่งล่าอีก 2 หัวโจก

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.ค. นายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นชายในคลิปกล้องวงจรปิดที่ดึงกระชากผมน.ส.เอ ลงจากรถ และนายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี คนขับรถกระบะสี่ประตูยี่ห้ออีซูซุ สีแดง โดยทั้งสองคน อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.2 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และเป็นญาติกัน พร้อมทนายความ ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมานายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมทำการสอบสวน โดยทั้งคู่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเฉพาะข้อหาเรียกค่าไถ่

แต่ยอมรับว่าได้เข้าไปอุ้มตัว น.ส.เอ จริงตามคลิป แต่เป็นการทำงานตามใบสั่งจากนางปู(ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่จังหวัดมหาสารคาม โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท ให้มาทวงหนี้ที่ น.ส.เอ กู้ยืมมา แต่ไม่ทราบว่าเป็นเงินค่าอะไร ทั้งนี้ทั้งคู่ยังปฏิเสธที่น.ส.เอ อ้างว่าเป็นการทวงเงินจากการค้ายาบ้า

 

“ผมได้รับการว่าจ้างจาก นางปู เจ้าของรีสอรท์แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดมหาสารคาม เป็นเงิน 10,000 บาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นการทวงเงินค่าอะไร เพราะมีหน้าที่ทำงานให้เสร็จ แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับหนี้สินที่ค้างทั้งสิ้น” นายรัฐศาสตร์ กล่าว

ด้านพ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทั้ง 5 คน “กระทำความผิดฐาน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป,

ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย,ร่วมกันพยายามหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร,

ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม” พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน