หัวหินรับมือ ‘เซิญติน’ เฝ้า 24 ชม. หลังน้ำป่าซัดถนนขาด-ท่วมบ้านนับร้อย
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน, จ.ส.อ.สมพร หงษ์ทอง หัวหน้าชุดรักษาความสงบที่ 2 พื้นที่หัวหิน, นายมนูญ ทองแย้ม กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบสะพานและฝายน้ำล้น จำนวน 2 แห่ง ที่ถูกน้ำป่าหลากท่วมจนถนนขาดเสียหาย บริเวณหมู่ 3 บ้านป่าละอู และหมู่ 11 บ้านปากคลอง ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยน้ำป่าได้กัดเซาะจนถนน และสะพานเข้าหมู่บ้านได้รับความเสียหาย มีระดับน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้ เนื่องจากเป็นน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี ที่มีปริมาณมากและไหลเชี่ยวลงมาอย่างรวดเร็ว
นายมนูญ ทองแย้ม กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ติดต่อกันหลายวัน โดยพบว่าตกมากที่บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี คาดว่าเกิดจากอิทธิพลของพายุ ‘เซินติญ’ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงแม่น้ำปราณบุรีและคลองสาขาต่างๆ โดยน้ำป่าได้ซัดเอาสะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้านได้รับความเสียหาย รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมา
ชาวบ้านต้องใช้เชือกผูกเดินข้าม
นายมนูญ กล่าวต่อว่า ชาวบ้านหลายรายพยายามเดินข้ามถนนที่ยังไม่ขาด แต่มีน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งไม่มีความปลอดภัย เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเป็นการชั่วคราว แม้ว่าจะไกลกว่า แต่เพื่อความปลอดภัย คาดว่าหากฝนลดลงสถานการณ์จะค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
โดยอำเภอหัวหินได้ประสานงานไปยังกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน เพื่อประสานให้นำถุงยังชีพมาแจกให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถออกมาซื้อหาอาหารรับประทานได้เกือบ 100 ครัวเรือน ส่วนการซ่อมแซมสะพานยังไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องรอให้ฝนหยุดและระดับน้ำลดลงก่อน
ด้านนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้เทศบาลเมืองหัวหิน ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ได้แก่ ซอยชลประทาน 70 ใกล้ร้านก๋วยเตี๋ยวปลานายหอย, ซอยหัวหิน 102 ซึ่งมีหลายหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านพงษ์นเรศน์, หมู่บ้านคันทรี่โอม รอยัลฮิลล์ และซอยหัวหิน 112 ชุมชนหัวนา
นายจีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า เทศบาลเมืองหัวหินได้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่แบบเทอร์โบซิ่ง จำนวน 4 ตัว ไดโว่ จำนวน 6 ตัว, เครื่องสูบน้ำนาค 4 ตัว เครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งบนรถดับเพลิงอีก 6 คัน รวมทั้งรถจักรกลหนัก ทั้งหมดมีความพร้อมในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานหลักที่พร้อมรับการประสานงานหากเกิดภาวะวิกฤติ ทั้ง ปภ.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และชลประทานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
