ทลายเครือข่าย พนันออนไลน์ ลุยค้น 3จว. รวบ19ผู้ต้องหา เงินหมุนเวียน600ล.

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญาวงศ์ รองผบช.สกบ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1

ทลายเครือข่าย

ทลายเครือข่าย / พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 ปปง. พ.อ.พิทักษ์ ชูศรี ผบ.ร้อย หัวหน้าชุด ปฏิบัติการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด ขอนแก่น

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์สยามออฟชั่น โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 19 ราย เป็นระดับแกนนำ 9 ราย และพนักงานที่ทำหน้าที่ในการชักชวน 10 ราย พร้อมของกลางเงินสด 260,000 บาท สมุดบัญชีกว่า 10 เล่ม เงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 17 เครื่อง โทรศัพท์ 15 เครื่องทลายเครือข่าย

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ว่าถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ มากกว่า 70 ชนิด ได้แก่ คู่สกุลเงิน, ดัชนี, หุ้น เป็นต้น ซึ่งเรียกว่า ไบนารี ออพชั่น (Binary Option) ผ่านทางเว็บไซต์ www.siamoption.com

แต่เมื่อประชาชาชนสมัครสมาชิกและ โอนเงินเข้าไปแล้วกลับไม่สามารถเทรดหรือลงทุนตามที่ประกาศในเว็บไซด์ดังกล่าว

แต่กลายเป็นการทาย ผลการขึ้นหรือลงของกราฟ ฟอร์เร็กซ์ (คู่สกุลเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) 8 อย่าง , ดัชนี้ เฉพาะ CRYTOINDEX และ โลหะ ซึ่งไม่ใช่เป็นการลงทุนตามที่ประกาศแต่อย่างใด

มีลักษณะเป็นการพนันออนไลน์ จึงประสานข้อมูลผ่าน ศปอส.ตร. บูรณาการร่วมกับ บช.ทท. บช.ภ.4 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร เข้าทลาย เครือข่ายพนันออนไลน์ดังกล่าว พร้อมกัน 3 จุดในพื้นที่กรุงเทพ ขอนแก่น และภูเก็ต

โดยจุดแรกตรวจค้นบริษัทเฮลิกซ์ไทยบีช จำกัด เลขที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 47 ห้อง4703 แขวงยานนาวา เขตสาทร

จุดที่สองบริษัทเฮลิกซ์ไทยบีช จำกัด (ขอนแก่น) เลขที่ 3/1 หมู่ 14 ถ.ศรีจันทร์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุมน.ส.จีรภา แพงลืม อายุ 25 ปี น.ส.ชญานันท์ ประเสริฐสังข์ อายุ 31 ปี น.ส.ณัฐมน จำรัสแนว อายุ 25 ปี น.ส.ไปรยา เพียผิว อายุ 43 ปี

น.ส.สมฤทัย ปิยะพิสุทธ์ อายุ 26 ปี น.ส.อัญญาภรณ์ ธีรเสถียรพงศ์ อายุ 32 ปี นายโกศล เพียรหนูไทย อายุ 23 ปี นายณัฐพล กุโรรัตน์ อายุ 23 ปี นายวัฒนพัฒน์ วิชัยรัมย์ อายุ36 ปี และนายสุวิชชา หร่องบุตรศรี อายุ 24 ปี ขณะทำหน้าที่ชักชวนสมาชิกร่วมลงทุน

จุดที่สามตรวจค้นบริษัทเฮลิกซ์ไทยบีช จำกัด (ภูเก็ต) เลขที่ 26/164 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จับกุมนายฐานันดร ไทยใหม่ อายุ 34 ปี (หัวหน้าขบวนการ) น.ส.รัตนาภรณ์ พันนอก อายุ 30 ปี น.ส.ภัทระ นาดี อายุ 47 ปี

นางภัคกร จินะกาศ อายุ 39 ปี น.ส.นิภาวรรณ ศรีน่ว อายุ 31 ปี นายนณัฐพงศ์ ศรีวรรณ อายุ 20 ปี นายชลัมพัน ชูจิตต์ อายุ 44 ปี นายจิระพงศ์ มณีศรี อายุ41 ปี และน.ส.จิตตานันท์ เศรษฐพิตร อายุ 45 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าขบวนการนี้เป็นขบวนการใหญ่ มีนายทุนขบวนการใหญ่เป็นชาวรัสเชีย ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ผ่านช่องทางที่จ.ภูเก็ต ซึ่งขบวนการนี้มีการตั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ และภูเก็ต รวมทั้งที่ขอนแก่น ถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งบริษัทเพื่อชักชวนเหยื่อในลักษณะโบรกเกอร์

อ้างความน่าเชื่อถือว่าบริษัทมีการจดทะเบียนถูกต้อง ผ่านกรมธุรกิจการค้าและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมเป็นสมาชิก 1.4 ล้านราย โดยในแต่ละเดือนมีผู้เล่นหมุนเวียนมากกว่า 1 แสนบัญชี ยอดเงินไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน รวมวงเงินหมุนเวียนปีหลายร้อยล้านบาท

ซึ่งขณะนี้ได้ทำการตรวจยึดเงินได้กว่า 130 ล้านบาท และคาดว่ามีเงินหมุนกว่า 600 ล้านที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อนำเงินมาคืนประชาชน

อย่างไรก็ตามฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน อย่าได้หลงเชื่อการลงทุนลักษณะนี้ โดยเฉพาะการลงทุนที่อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนมากกว่าร้อยละ 10 ซึ่งในส่วนนี้ไม่เป็นความจริง ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการ อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ฝากไปยังผู้ที่ยังดำเนินธุรกิจในลักษณะคล้ายกัน

หากยังดำเนินธุรกิจอยู่ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมพร้อมขยายผลถึงนายทุน ตลอดจนใช้มาตราการยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีมากกว่า 5-6 เว็บไซต์

ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า พฤติกรรมลักษณะนี้มีมากในพื้นที่ขอนแก่น ตนได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จึงได้ประสานให้ชุดทำงานของพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ดำเนินการสืบสวนจับกุม และถือเป็นการกวาดล้างบ้านให้สะอาด เพื่อลดความเลื่อมล้ำทางสังคม

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันจัดให้มีหรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ข. โดย ไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.การพนัน พ.ศ.2474 มีอัตราโทษจาคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 พันบาท

และ ข้อหา โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ ประชาชน อันเป็นความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน