สลด!พบซากกระทิงเพศผู้ 4 ตัวถูกน้ำป่าซัดตกเหวจมลำห้วยตาย สภาพขึ้นอืด ผิวหนังหลุดลอก คาดตายมาแล้ว 3-4 วัน เร่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง

ซากกระทิงตายคาลำห้วย

กระทิงตาย/เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 ส.ค. นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่พบซากกระทิงตาย ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่พร้อมกับสัตว์แพทย์แล้ว ซึ่งในพื้นที่ค่อนข้างลำบากและไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าเป็นกระทิงเพศผู้ จำนวน 4 ตัว โดยจัดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ คาดว่าจะได้ข่าวคงจะค่ำนี้ว่าสาเหตุที่กระทิงตายเพราะอะไร

เร่งตรวจสอบการตาย

โดยเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบซากกระทิง 4 ตัวนอนเกยอยู่ตามแก่งหาดทรายในลำห้วยรันตี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่บ้านกองม่องทะ ตำบลไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี สภาพขึ้นอืดคาดว่าตายมาแล้ว 3-4 วัน เบื้องต้นกระทิง 4 ตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้ทั้งหมด

สภาพซากเน่าเปื่อย ผิวหนังลอกหลุด

สาเหตุการตายสันนิษฐานว่า เกิดจากถูกภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลาก โดยร่วมกับสัตวแพทย์หญิงกนกวรรณ อรุณยานนท์ สำนักบริหารพื้นที่ 3 บ้านโป่ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจผ่าพิสูจน์ซากกระทิงจำนวน 1 ตัว ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง

วันเดียวกัน นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี ว่าพบซากกระทิง 4 ซาก นอนเกยอยู่ตามแก่งในลำห้วยรันตี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก

นายสมโภชน์ กล่าวต่อว่า ซากกระทิงตัวที่ 1 พบบริเวณสันเขื่อนทางเข้าหมู่บ้านกองม่องทะ ตัวที่ 2 และตัวที่ 3 ติดอยู่เกาะกลางแม่น้ำท้ายหมู่บ้านกองม่องทะ และซากกระทิงตัวที่ 4 พบอยู่บริเวณริมหาดทรายท่าน้ำหลังวัดกองม่องทะ ซากกระทิงทั้งหมดมีสภาพขึ้นอืด คาดว่าน่าจะตายมาแล้วประมาณ 3-4 วัน ผลการตรวจทางภายนอกของซากกระทิงไม่พบร่องรอยการถูกล่า หรือร่องรอยการทำร้ายแต่อย่างใด สภาพซากเน่าเปื่อย ผิวหนังลอกหลุด พบดินภายในหลอดลมจำนวนมาก ซึ่งเกิดจากการสำลัก

ส่วนอวัยวะภายในเน่าเปื่อยบางส่วนเริ่มย่อยสลาย สาเหตุการตาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งช่วงที่กระทิงเดินข้ามเป็นต้นน้ำ มีลักษณะเป็นน้ำตก มีหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร และมีสภาพพื้นที่เป็นหินลื่น ประกอบกับน้ำไหลเชี่ยว กระทิงฝูงดังกล่าวอาจหนีน้ำไม่ทัน จึงถูกน้ำซัดตกจากภูเขาไหลมาตามลำน้ำที่ไหลเชี่ยวจนตาย

โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสภาพอากาศในขณะนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าได้อีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เฝ้าระวังเพื่อให้สัตว์ป่าอยู่ในระยะที่ปลอดภัยจากน้ำป่าที่อาจจะท่วมได้อีก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านข่าว ตายแล้ว เจ้าโทน กระทิงหลงป่า พบรักวัวบ้าน จนติดลูกนับ 100 ตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน