แม่ ‘น้องบูม’ เหยื่อมือมีดวัย 13 ฟันหัว ลั่นไม่ยอมให้ลูกตายฟรี เผยครอบครัวผู้ต้องหาไม่มาขมาศพเลย หวั่นคดีเงียบ วอนขอความเป็นธรรม ด้าน ผกก.สภ.น้ำขุ่น เผยต้องสอบสวนอย่างละเอียด ยันทำคดีให้เกิดความเป็นธรรม
จากกรณี ‘น้องบูม’ (นามสมมติ) เด็กชายวัย 15 ปี ที่ถูกรุ่นน้องวัย 13 ปี จากโรงเรียนเดียวกันใช้มีดสปาต้าฟันเข้าที่ศีรษะจากด้านหลัง จนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางครอบครัวทนไม่ไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้ออกมาโพสต์เรื่องราวให้สังคมได้รับรู้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เหยื่อมือมีด / ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ส.ค. นางคำปุ่น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี แม่ของน้องบูม เปิดเผยว่า ในวันนี้ ทางตำรวจได้นัดตนและครอบครัวไปสอบถามเรื่องคดีความอีกครั้ง พร้อมจะเข้าไปสอบถามความคืบหน้าคดีของลูกชาย ซึ่งตนจะไม่ยอมให้ลูกต้องตายฟรี ถึงแม้จะไม่สามารถเอาชีวิตแลกชีวิตได้ ซึ่งการสูญเสียลูกไปไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ทั้งนี้ ยังมีความกังวลด้วยว่าคดีของลูกจะเงียบ เพราะหลังจากที่เกิดเหตุญาติผู้ก่อเหตุไม่เข้ามาขอขมาศพของลูกเลย
นางคำปุ่น กล่าวต่อว่า มีเพียงย่าของน้องทิว (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ที่เป็นคนลงมือใช้มีดฟันลูกของตน ได้มาพูดคุยในวันที่เอาศพลูกไปเผา ที่มาบอกว่ายังไงจะขอชดใช้ให้หลังจากที่ผ่านงานฌาปนกิจของลูกไปก่อน ส่วนญาติของน้องพอส (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ให้เด็กชายทิวมาก่อนเหตุ กลับไม่ยอมมาขอขมา และยังยืนยันด้วยว่าจะไม่รับผิดชอบอะไร เพราะน้องพอสไม่ได้เป็นคนฟัน ซึ่งตนอยากขอความช่วยเหลือจากสังคมเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.อิทธิชัย จารุนิล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคดีนี้จะเป็นการพยายามฆ่าหรือไม่ เพราะต้องสอบสวนอย่างละเอียด และผู้ก่อเหตุเป็นเพียงยุวชน ซึ่งมีกฎหมายคุ้มครองเด็กอยู่ อย่างไรก็ตาม จะต้องทำคดีให้เกิดความเป็นธรรม และตามขั้นตอนของกฎหมายให้ดีที่สุด
