เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 18 ก.ย. ศูนย์วิทยุ สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านริมหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า พบสัตว์ทะเลบางชนิดไม่ทราบสายพันธุ์ถูกคลื่นซัดขึ้นมาตายเกลื่อนชายหาด เกรงว่าจะส่งผลกระทบกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำทะเลและเดินเล่นตามแนวชายหาด จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบสัตว์ทะเลมีลักษณะใสเหมือนวุ้น ตัวขนาดน้ำแข็งยูนิต คล้ายแมงกะพรุนตายเกลื่อนชายหาดยาวกว่า 10 กม.แล้ว เมื่อสัมผัสหรือจับ ตัวจะลื่นๆ โดยบางคนเมื่อสัมผัสจะรู้สึกคัน แต่บางคนไม่รู้สึกคันหรือมีปฏิกิริยากับร่างกาย ซึ่งมีคนงานดูแลสวนของโรงแรมอโมรา กวาดซากสัตว์ดังกล่าวออกจากแนวชายหาดไปกองรวมกันไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวไปถูกหรือสัมผัส
นายแดง อื่นประโทน อายุ 29 ปี คนดูแลสวนโรมแรมอโมรา หาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เล่าให้ฟังว่า ตนเองทำงานที่โรงแรมดังกล่าวมากว่า 3 ปีและมักจะคอยเก็บกวาดชายหาดบางเทามาตลอด ซึ่งไม่เคยเห็นสัตว์ทะเลชนิดดังกล่าวมาก่อน ความเห็นส่วนตัวคิดว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดหนึ่ง แต่ไม่ทราบสายพันธุ์ มี รปภ.ของโรงแรมบางคนสัมผัสแล้วรู้สึกคันและเป็นผื่นแดง แต่บางคนไม่เป็นอะไร จึงยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสัตว์ทะเลชนิดใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเมื่อช่วงปี 2558 พบว่า สัตว์ทะเลชนิดนี้เคยพบริมชายหาดใน จ.ชุมพร มาแล้ว โดยระบุว่า ไม่ใช่แมงกะพรุน แต่เป็น วุ้นทะเล หรือที่ชาวบ้านและชาวประมงเรียกว่า แมงกะพรุนแหวน หรือ กระแจะ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีวงจรชีวิตซับซ้อน วงกล้ามเนื้อไม่ครบวงจร ไม่มีระยะตัวอ่อน การที่สัตว์ชนิดนี้ขึ้นมากองอยู่บนชายหาดจำนวนมากนั้น อาจเป็นเพราะว่าบริเวณชายหาดมีสารอาหาร สิ่งปฎิกูล สารเคมีทางการเกษตรจากอุตสาหกรรมหรือซากพืชต่างๆที่ถูกฝนชะล้างจากบนฝั่งลงสู่ชายทะเล และเมื่อสัตว์เหล่านี้เข้ามากินเป็นอาหารและสังเคราะห์เข้ากับแสงแดดที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ จะเกิดการกระตุ้นเหมือนแพลงก์ตอนบูม ทำให้ขยายพันธุ์เป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วและถูกคลื่นซัดเข้ามากองอยู่บนชายหาดดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามสภาพพื้นที่ แต่ไม่เป็นอันตรายสามารถจับต้องได้และย่อยสลายเร็ว
