เครือข่ายอนุรักษ์เมืองน่าน จี้ตร.เร่งจับคนร้าย ฆ่าโหด อดีตกำนันนักพัฒนา คาด 2 ปมขัดแย้ง

กรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มยิง นายเกษตร ยศบุญเรือง อดีตกำนันแหนบทองคำ และเป็นนักอนุรักษ์ ด้านทรัพยากรป่าไม้คนสำคัญของเมืองน่าน จนเสียชีวิต ขณะกำลังตัดหญ้าอยู่ที่สวนบ้านห้วยขาม หมู่ 2 ต.เชียงของ อ.นาน้อย จ.น่าน โดยพบปลอกระสุนปืนลูกซองยาว และปลอกกระสุนปืนอาก้า พร้อมรอยเท้าและก้นบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งจากประเทศลาวตกอยู่เป็นหลักฐาน

ความคืบหน้าวันที่ 31 ส.ค. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผบก.ภ.จว.น่าน พร้อม พ.ต.อ.ถนัด พลพานิช ผกก.สภ.นาน้อย พร้อมกำลังชุดสืบสวน เข้าตรวจค้นที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยงาม อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งพื้นที่ตั้งติดกับสวนของผู้ตาย เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และเรียกผู้ต้องสงสัยเข้าสอบปากคำ

จำลองเหตุการณ์ฆาตกรรมโหด

ซึ่งขณะนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยงาม 3 นายมาสอบสวน และจะเรียกสอบเพิ่มในวันนี้ อีก 1 นาย ส่วนอีกนายได้หายตัวไปจากบ้านพักตั้งแต่เย็นวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา และจากการสอบสวนทำให้ทราบ ถึงความขัดแย้งรุนแรง ระหว่างผู้ตาย กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งกำลังหลบหนี ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องขบวนการค้าตัวนิ่ม เชื่อว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งได้ประสาน กับทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ในการติดตามตัวแล้ว

ด้าน เครือข่ายอาสาสมครพิทักษ์ธรรมชาติแบะสิ่งแวดล้อม จ.น่าน เริ่มเคลื่อนไหว กรณีลอบยิงสังหารกำนันเกษตร โดย นายสำเริง แก้วเทพ ประธานเครือข่ายอาสาสมัคร พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติหมู่บ้านจังหวัดน่าน เปิดเผยความรู้สึก ว่าเป็น ความสูญเสียครั้งใหญ่ ต่อวงการนักต่อสู้ นักอนุรักษ์ นักพัฒนา ที่ทำงานร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานกว่า 30 ปี โดยเครือข่าย ทสม.จังหวัดน่าน กว่า 2,000 คน พร้อมให้ความร่วมมือ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการแจ้งเบาะแสคนร้าย เพื่อให้จับกุมตัว มาดำเนินคดีให้ได้

ขณะที่ นายสถาพร สมศักดิ์ ที่ปรึกษาเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน กล่าวว่า กำนันเกษตร เป็นบุคคลนักอนุรักษ์ นักพัฒนา เป็นผู้ร่วมผลักดัน พ.ร.บ.ป่าชุมชน ตั้งแต่ยุคแรกๆ และเป็นบุคคลที่กว้างขวางด้านการทำงานแผนพัฒนาชุมชนในระดับภาคเหนือและระดับประเทศ คดีลอบสังหารด้วยอาวุธหนัก อย่างอุกอาจ

ทำให้แกนนำเครือข่าย ทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งกำลังลุกขึ้นมาพัฒนา และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกิดความเสียขวัญและกำลังใจ รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในการแสดงจุดยืนของการเป็นนักพัฒนา นักอนุรักษ์ ขณะที่เครือข่าย ทสม.ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน