4 สาว สักที่คลองหลอด พ่อเผยติดเอดส์พร้อมกัน ดับภายใน 1 เดือน หมอยังสงสัย!

เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายพิธญ์ชยุตม์ พันพิมพ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านน้อยสนามบิน ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย พร้อมผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่วัดวิเวกธรรมคุณ (วัดนาฮุง) ต.กุดป่อง โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระดับอาสาสมัครรักษาดินแดง (อส.) รายหนึ่งในพื้นที่ จ.เลย ว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) ลูกสาวอายุ 22 ปี ได้เสียชีวิตพร้อมกับเพื่อนรวมทั้งหมด 4 คน ต่างติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) และเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ เนื่องจากทั้ง 4 คน เคยไปสัก ทำให้ติดเชื้อพร้อมกัน

เจ้าหน้าที่ อส.เผยว่า ลูกสาวไปพักอาศัยอยู่กับน้าที่ จ.ปทุมธานี โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์มาบอกว่าปวดท้องมาก ก่อนไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แพทย์ตรวจเลือดก่อนพบว่าติดเชื้อไวรัสเอชไอวี แพทย์ได้สั่งยามาให้รับประทาน แต่อาการไม่ดีขึ้น ยังคงปวดท้อง และลูกสาวเปิดเผยว่า

ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ได้ไปสักลายกับเพื่อนด้วยกัน 4 คน แถวตลาดนัดคลองหลอด กรุงเทพฯ แล้วก็เกิดอาการปวดเนื้อปวดตัว ปวดในช่องท้องบ่อยๆ กระทั่งต้นเดือนกรกฎาคม ลูกสาวบอกว่าจะนั่งรถไปหาป้าที่ จ.เชียงใหม่ ขณะนั่งรถไปเชียงใหม่ เกิดอาการท้องเสียต้องเข้าห้องน้ำบนรถประมาณ 9 ครั้ง พอป้ามารับที่สถานีขนส่งฯ ที่ จ.เชียงใหม่ ป้าต้องรีบพาเข้าโรงพยาบาลนครพิงค์

“หมอบอกว่าลูกสาวติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ระยะที่ 3 หรือระยะสุดท้ายแล้ว ผมได้แต่ทำใจ แพทย์บอกว่ามียาต้านเชื้อไวรัสอยู่ ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยว่าจะถูกกับยาหรือดื้อยาไหม ต้องกินยาตลอด ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ลูกสาวอาการทรุดหนัก ผมต้องอุ้มพาไปโรงพยาบาล แพทย์ให้ทานยาต้านเชื้อไวรัสรอบเดียวก็มาเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา”

เจ้าหน้าที่ อส.กล่าวว่า เสียใจมากที่ลูกสาวต้องมาตายจากไปในขณะที่อายุยังแค่ 22 ปี เท่านั้น เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลูกสาวเดินกลับมาที่บ้าน ยังเอารอยสักมาอวดอยู่เลย สักเป็นรูปคาบูกิ (Kabuki) ที่ข้อเท้าข้างซ้าย ลูกสาวยังบอกว่าช่วงที่อยู่โรงพยาบาลลำลูกกา เพื่อนได้โทรศัพท์มาหาบอกว่าปวดท้องบ่อยๆ เหมือนกัน แล้วตอนที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ นั้น ผู้ปกครองของเพื่อนได้โทรศัพท์มาว่าเพื่อนเสียชีวิตแล้ว น้องก็ใจหาย ได้แต่ทำใจ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสเอชไอวีระยะที่ 3 แล้ว

“เพียงระยะเวลา 1 เดือน ลูกสาวและเพื่อนลูกที่ไปสักลายด้วยกันต่างเสียชีวิตทั้งหมด 4 คน ผมได้แต่ทำใจ จะไปแจ้งความก็ไม่รู้จะไปเริ่มตรงไหนก่อน อยากจะฝากวัยรุ่นที่ชอบสักลาย อยากให้เลือกร้านที่ใช้อุปกรณ์และเครื่องมือที่สะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อมาก่อน อยากฝากไปยังร้านรับสักลาย ให้เปลี่ยนเข็มสักทุกครั้งด้วย” เจ้าหน้าที่ อส.กล่าว

ด้านนพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ก่อนอื่นจะต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อนว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเสียชีวิตจากการใช้เข็มสักลายหรือไม่ หรือการติดเชื้อเอชไอวีเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนแล้ว แน่นอนโอกาสติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มซ้ำกับคนอื่นย่อมมีโอกาสเสี่ยงสูง และอาจเสี่ยงติดเชื้อทางกระแสเลือดได้อีกหลายโรค อาทิ โรคไวรัสตับอักเสบบีและซี เชื้อรา เป็นต้น

โดยข่าวรายงานว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการติดเชื้อเอชไอวีใน 1 เดือนนั้น มีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะระยะ 1 เดือนเป็นระยะที่เชื้อเริ่มฟักตัวจนถึง 6 เดือน จากนั้นนับตั้งแต่เวลาเริ่มรับเชื้อเข้ามาในร่างกายจนเริ่มปรากฏอาการ ประมาณ 3-5 ปีหรือนานกว่านั้น โดยอาการระยะแรกๆ ของโรคคล้ายกับป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่และอ่อนเพลีย ส่วนกรณีดังกล่าวผู้เสียชีวิตอาจติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ ไม่มีทางที่จะเสียชีวิตจากเอชไอวีภายใน 1 เดือน

“เนื่องจากเชื้อเอชไอวีจะอาศัยเม็ดเลือดขาวและทำลายเซลล์สำคัญที่ต่อสู้กับโรคภายนอกร่าง คือ เม็ดเลือดขาวซีดีโฟร์ รวมถึงทำลายระบบคุ้มกันร่างกาย ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้เสียชีวิตจะมีเม็ดเลือดขาวซีดีโฟร์ ระบบภูมิคุ้มกันต่ำมากและมีอาการอื่นแทรกซ้อน แต่หากเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 ราย ก็ยังมองว่าเป็นไปได้ยากอีก ดังนั้น หากแพทย์สามารถเจาะเลือดและบ่งบอกความรุนแรงของโรคได้ อาจทราบว่าผู้เสียชีวิตอาจติดโรคมาก่อนมีอาการแทรกซ้อน ซึ่งกรณีเช่นนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่พบมาก่อน” นพ.เมธิพจน์ กล่าว