คู่บุญ2ตายายแต่งงานใช้ชีวิตคู่มานานกว่า 61 ปี ก่อนคุณตาล้มป่วยด้วยโรคหัวใจเสียชีวิต ลูกหลานปิดเป็นความลับไม่ให้คุณยายรู้ ก่อนที่คุณยายจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตามไปในไม่กี่ชั่วโมง
คุณพ่อผัน กับคุณแม่ละออง
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศรีวิเทศสังฆาราม ถ.กาญจนวนิช ม. 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา มีการจัดงานศพของตายายคู่รักแท้ ใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกันมายาวนาวกว่า 60 ปี เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้คนรอบข้างและลูกหลาน ช่วงบั้นปลายชีวิตลูกชายแอบได้ยินทั้งคู่ปรึกษากันบ่อยถึงกับน้ำตาซึม “เราอยากตายก่อน เพราะเราขาดตัวเองไม่ได้” สุดท้ายสิ้นลมห่างกันคนละวัน จัดงานศพพร้อมเคียงคู่กันท่ามกลางความอาลัย
งานศพของคุณตาคุณยาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศรีวิเทศสังฆาราม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของคุณพ่อผัน ยอดมิตร อายุ 91 ปี และคุณแม่ละออง ยอดมิตร อายุ 77 ปี 2สามีภรรยาที่เสียชีวิตห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งได้รับความสนใจจากเพื่อนบ้านและประชาชนใน อ.สะเดาที่ทราบข่าวต่างพูดถึงว่าเป็นคู่รักแท้ หรือเป็นคู่บุญที่เกิดมาจริงๆ เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายเพิ่มศักดิ์ ยอดมิตร อายุ 56 ปี ลูกชายของคุณพ่อผัน คุณแม่ละออง กล่าวว่า ทั้งคู่แต่งงานอยู่กินด้วยกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 ถึงปัจจุบันนี้รวม 61 ปีแล้วมีลูก 3 คนคือพี่สาว ตนเอง และน้องชาย ทั้งคู่มีอาชีพรับจ้าง
ในส่วนของคุณพ่อเป็นคนที่มีจิตใจชอบช่วยเหลือเพื่อนบ้าน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเสียสละ จึงเป็นที่รักใคร่ของทุกๆคนได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และอสม.ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นแรกในขณะนั้น ส่วนตัวใช้ชีวิตสมถะ ชอบไปวัดฟังธรรม
“ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมาคุณพ่อล้มป่วยเป็นโรคหัวใจ ซึ่งได้รับการรักษามาตลอด หลังจากนั้น 3-4 ปี คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งก็รักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ หลังจากที่ล้มป่วย ทั้งคู่ปรึกษาพูดคุยกันตลอดโดยที่ไม่ได้บอกกับลูกหลาน มีบางครั้งที่ผมแอบได้ยินถึงกับน้ำตาซึมในความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน ซึ่งคุณพ่อบอกเรียกชื่อเล่นแม่ จุกเอ๋ยเราอยากตายก่อน เพราะเราขาดตัวเองไม่ได้ ส่วนคุณแม่ก็พูดเหมือนกัน” นายเพิ่มศักดิ์ กล่าว
นายเพิ่มศักดิ์ กล่าวต่อว่า ประมาณเที่ยงวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่คุณพ่อเสียอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่
ส่วนคุณแม่นอนพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ตนสั่งห้ามไม่ให้ใครบอกคุณแม่ จนวันที่ 2 ก.ย. ช่วงเวลา 05.00 น. ตนเตรียมตัวไปรับศพคุณพ่อที่รอขั้นตอนการทำเอกสาร เมื่อเข้าไปดูอาการของคุณแม่ตามปกติก่อน ก็พบว่าคุณแม่เสียชีวิตแล้ว โดยนอนอ้าปากค้าง เนื้อตัวเริ่มแข็ง
ซึ่งนับว่าเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในครอบครัว สำหรับการเสียชีวิตของทั้งคู่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ตนเองและหลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องที่แปลก เหมือนทั้งคู่จะนัดกันหรือเปล่า
“ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิต ด้านครอบครัวคุณพ่อมีอายุห่างจากคุณแม่กว่า 10 ปี อยู่ด้วยกันแบบเพื่อน พี่ และพ่อ เท่าที่เห็นไม่เคยมีการทะเลาะกันรุนแรง คุณพ่อจะเป็นฝ่ายขอโทษตลอดแต่ไม่ได้ขอโทษด้วยการพูด แต่จะแสดงออกด้วยการตักข้าวให้กิน ด้านสังคมสอนให้มีความเสียสละ เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ลูกหลานทุกคนซึมซับได้ดี และนำมาใช้กับชีวิตประจำวันตลอดมา” นายเพิ่มศักดิ์ กล่าว
สำหรับการฌาปนกิจคู่รักแท้จะมีขึ้นพร้อมกันในวันที่ 6 ก.ย. นี้ เพื่อจะให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันจนวาระสุดท้าย
