รองโฆษกสำนักงานอัยการฯ แจงผลพิพากษาศาลเพิกถอนใบขับขี่ ‘เก๋ง เกียร์อาร์’ เผยจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาเฉพาะโทษจำคุก ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์โทษเพิกถอนใบขับขี่ ศาลให้เพิกถอนใบอนุญาตและคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และจะมีหนังสือแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการต่อไป

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือเก่ง เกียร์อาร์ อดีตดีเจ โพสต์เฟซบุ๊กโชว์ว่า ตนเองได้รับใบขับขี่อีกครั้งว่า โซเชียลมีเดียไม่ได้มีไว้แค่เพื่อบอกว่าเราทำอะไร หรืออวดว่าเราทำอะไร แต่ในทางตรงข้าม โซเชียลมีเดียวันนี้ นิยมการตรวจสอบว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนไม่จริง ข้อมูลที่ปรากฏจึงเป็นข้อมูลสาธารณะที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง หรือที่ต้องคิดแล้วมีประเด็นทางสังคม จะถูกวิจารณ์ ตั้งข้อสังเกต และนำไปสู่การตรวจสอบ อ่านข่าว กรมขนส่ง เตรียมยึดใบขับขี่ตลอดชีพ เก่ง เกียร์อาร์ คืน หลังเพิ่งโชว์ว่อนโซเชี่ยล

ตนได้รับโทรศัพท์จากสื่อมวลชนสอบถามเรื่องใบขับขี่ของนายภัทรศักดิ์ที่เคยมีคดีถอยรถชน สอบถามถึงคำพิพากษาที่อัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องคดีไว้ เก่ง เกียร์อาร์ คัมแบ็ก โชว์ใบขับขี่ใหม่กริบ ลั่น ใครทำเลวกับเรารอดูผลกรรม!

นายโกศลวัฒน์ กล่าวต่อว่า จึงให้นิติกรสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (พระนครเหนือ) ไปคัดคำพิพากษาที่ศาลอีกครั้งจนทราบว่า ศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกนายภัทรศักดิ์ จำเลยเป็นเวลา 3 เดือน 15 วัน ไม่รอลงอาญา และสั่งเพิกถอนใบขับขี่ จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 3 เดือน 15 วัน จำเลยยื่นฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาให้รอการกำหนดโทษ 3 ปี คุมประพฤติ 2 ปี

จะเห็นได้ว่าจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาเฉพาะโทษจำคุก แต่ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์โทษเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ดังนั้นประเด็นปัญหาว่าศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้หรือไม่ จึงยุติไปตามศาลชั้นต้นคือ ศาลให้เพิกถอนใบอนุญาตและคำพิพากษาส่วนนี้ถึงที่สุดแล้ว ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา ซึ่งศาลชั้นต้นจะมีหนังสือแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามคำพิพากษา

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวอีกว่า นายกมล บูรณพงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงผ่านสื่อแล้วว่านายภัทรศักดิ์มาขอออกใบขับขี่หรือใบอนุญาต

โดยอ้างว่าศาลพักใช้ใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งขณะที่มาขอ กรมการขนส่งฯยังไม่ทราบ และยังไม่ได้รับหนังสือสำคัญแสดงว่าคดีถึงที่สุดจากศาล จึงออกใบอนุญาตให้นายเก่งไป และกำลังจะเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เมื่อได้รับหนังสือสำคัญจากศาลต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงตามที่นายภัทรศักดิ์โพสต์ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องพบเห็นก็จะมาช่วยกันดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาต่อไป

“การโพสต์เฟซของนายเก่งจะเป็นการสร้างผลลบให้ตัวเอง เพราะโซเชียลก็จะออกมาทวงถาม เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการกันต่อไป เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นำโซเชียลมีเดียมาช่วยกันตรวจสอบสังคม และช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย และขอฝากให้ระมัดระวังการโพสต์การแชร์ไม่ให้ผิดกฎหมาย เช่นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” นายโกศลวัฒน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน