หนุ่มอิหร่านโต้ ไม่ได้ฉุดสาวไทย วัย 21 ปี ไปข่มขืน ยันฝ่ายหญิงหึงหนัก จนโกนหัวเอง

หนุ่มอิหร่านโต้ – กรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ชาวจ.ปราจีนบุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างเดินอยู่ในถนนกลางวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ได้ไปพบกับอดีตแฟนเก่าชาวอิหร่าน ซึ่งได้เลิกลากันไปแล้ว

เข้ามาจับตัวบังคับให้นั่งรถจักรยานยนต์ไปด้วยแล้วพาตัวไปที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านจอมเทียน เพื่อกักขังหน่วงเหนี่ยวก่อนใช้กุญแจล็อคข้อมือ ผ้าปิดปาก และพูดข่มขู่ทำร้าย ก่อนให้เซ็นสัญญายินยอมคืนเงินจำนวน 30,000 บาท จากนั้นจึงลงมือบังคับกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ถึงสองครั้ง

ทั้งงทำลายเอกสารส่วนตัว และจับโกนผม รวมทั้งบังคับให้อยู่ด้วยกันที่คอนโดฯ จึงออกอุบายพูดขอไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องแล้วจะกลับมาโดยขอกลับไปเก็บเสื้อผ้า อดีตสามีหลงเชื่อจึงยอมปล่อยตัวออกมาแจ้งความนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 21 ก.ย.พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อม พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา เชิญตัว น.ส.เอ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย น.ส.เอ ยืนยันว่าถูกก่อเหตุจริง พร้อมเล่าเพิ่มเติมว่าคบหากับแฟนคนนี้มานาน 1 ปีแล้ว กระทั่งเลิกราไปเมื่อ 4 เดือนก่อน เนื่องจากมีปัญหาทะเลาะบ่อยครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ น.ส.เอ

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ น.ส.เอ

และเคยถูกทำร้ายกระทั่งเคยแจ้งความไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาแต่คดีเงียบหายไป จนคืนที่ผ่านมา ขณะเดินเที่ยวกับเพื่อนชาวต่างชาติ แฟนเก่าก็มาพบและบังคับพาขึ้นรถ จยย.ไปที่คอนโดฯก่อนลงมือก่อเหตุ ซึ่งยืนยันว่าเรื่องเล่าทั้งหมดเป็นความจริงและจะขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด

เวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่นำตัว นายโมห์เซน ซาราฟราซี อายุ 39 ปี สัญชาติ อิหร่าน เดินทางเข้ามอบตัว พร้อมให้ปากคำตามคำสั่งศาลจังหวัดพัทยา โดย นายโมห์เซน ให้การว่า ทำอาชีพให้เช่ารถจักรยานยนต์ และเป็นผู้จัดการด้านการต่างประเทศชองบริษัทเอกชนรายหนึ่ง มีเวิร์คเพอร์มิตถูกต้อง ส่วนกรณีของ น.ส.เอ นั้นเคยคบเป็นแฟนกันมานานกว่า 1 ปีจริง ก่อนเลิกลากันไป

นายโมห์เซน เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยันไม่ได้ข่มขืนสาวไทย ตามที่ถูกกล่าวหา

นายโมห์เซน เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยันไม่ได้ข่มขืนสาวไทย ตามที่ถูกกล่าวหา

กระทั่งมาพบกันอีกครั้งจากนั้นได้พากันไปที่คอนโด โดยไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ใส่กุญแจมือ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนียว หรือขืนใจแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นความยินยอมพร้อมใจของฝ่ายหญิง ส่วนเรื่องโกนหัวก็ไม่ได้ก่อเหตุเพราะฝ่ายหญิงเป็นคนทำเอง อย่างไรก็ตามที่เกิดเรื่องคาดว่าหลังจากมีเพศสัมพันธ์กันเสร็จ ฝ่ายหญิงนำโทรศัพท์ของตนมาตรวจดู และพบภาพหญิงสาวชาวอิหร่านอีกคนที่คบอยู่ จึงน่าจะเกิดอาการหึงหวงจนเกิดเรื่องขึ้น จึงขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอทวงความยุติธรรม

ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า คดีนี้ทั้ง 2 เคยคบกันมาก่อนกระทั่งเลิกกัน แต่ต่อมาฝ่ายหญิงมาแจ้งความดำเนินคดีว่าถูกทำร้าย กักขังหน่วงเหนี่ยว กระทำชำเรา ทำลายเอกสาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รับแจ้งไว้แล้ว ขณะที่ผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวพร้อมให้ปากคำอย่างละเอียด โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ซึ่งจากนี้ตำรวจต้องรวบรวบพยานหลักฐาน ทั้งการตรวจที่เกิดเหตุ รอผลการตรวจร่างกายผู้เสียหาย ภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานให้ครบถ้วน ก่อนสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน